กลุ่มธุรกิจ TCP “เติมน้ำใต้ดิน” สานต่อพันธกิจจัดการน้ำทุกมิติ
01 May 2023

“การเติมน้ำใต้ดิน” หรือ Managed Aquifer Recharge (MAR) คืออีกหนึ่งมิติการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับและเกิดผลสัมฤทธิ์ในหลายประเทศ

สำหรับประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ทำงานร่วมกับสถาบันทรัพยากรน้ำใต้ดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำโครงการพัฒนาและจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วยการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้น นำร่องที่ ตำบลนนทรี อำเภอกบินบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งมีพื้นที่กว่า 42,000 ไร่ เกิดเป็นชุมชนต้นแบบที่ชาวบ้านได้มีส่วนร่วม มีองค์ความรู้เรื่องน้ำใต้ดินอย่างแข็งแกร่ง สร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ของตนเอง และต่อยอดเป็นโมเดลเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน

กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ริเริ่มโครงการ “โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย” มุ่งเน้นพันธกิจด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำครบทุกมิติ ทั้งน้ำบนดิน และน้ำใต้ดิน เพื่อสร้างความยั่งยืนและผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือเป็นองค์กร “Net Water Positive” หรือการใช้น้ำสุทธิเป็นบวก ลดการใช้ทรัพยากรน้ำและเติมน้ำสะอาดกลับคืนสู่แหล่งน้ำในท้องถิ่นให้ได้มากกว่า 100%

 

 

แนวทางการเติมน้ำใต้ดิน “ศึกษา-สำรวจ-สร้าง”

ผศ. ดร.โพยม สราภิรมย์ ผู้อำนวยการสถาบันทรัพยากรน้ำใต้ดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล่าถึงการทำงานเติมน้ำใต้ดินในลุ่มน้ำบางปะกงว่า การเติมน้ำใต้ดิน เป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อิสราเอล จีน และเกาหลีใต้ เป็นต้น

เนื่องจากภาวะโลกร้อน ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปัจจุบันนี้ไม่ได้เกิดแค่ช่วงฤดูกาล แต่จะเกิดเป็นช่วงละหลายๆ ปี ในช่วงปีน้ำมากจึงต้องเก็บสะสมน้ำไว้ใช้ในช่วงปีน้ำน้อย ดังนั้นการเก็บน้ำบนดินอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอต่อการสร้างความมั่นคงด้านน้ำในระยะยาว การเติมน้ำใต้ดินสามารถทำได้หลายวิธี โดยให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของสภาพปัญหาในพื้นที่นั้นๆ

“เราเริ่มต้นทำโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2561 โดยใช้เวลา 2 ปีแรกในการศึกษาและสำรวจความเหมาะสมทางด้านอุทกธรณีวิทยา ชั้นดิน ชั้นหิน ปริมาณและคุณภาพของทั้งน้ำผิวดินและใต้ดิน และได้เลือกตำบลนนทรี เป็นชุมชนต้นแบบการเติมน้ำใต้ดิน จากศักยภาพความเหมาะสมในการเติมน้ำใต้ดิน เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และมีเครือข่ายชุมชนที่เข้มแข็ง มีความพร้อมในการสร้างชุมชนต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้ได้เป็นอย่างดี”

 

โดยปัญหาด้านน้ำหลักๆ ของพื้นที่ตำบลนนทรี คือน้ำแล้ง ทั้งที่มีฝนตกปริมาณมากและเกิดปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปี ซึ่งแหล่งน้ำผิวดินจะระเหยไปจนไม่พอใช้ ดังนั้นการกักเก็บน้ำลงสู่ชั้นใต้ดินเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในฤดูแล้งจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยบริหารจัดการน้ำให้มีใช้อย่างเพียงพอ

 

การจัดการเติมน้ำใต้ดิน 4 วิธี ที่นำมาใช้ในพื้นที่ตำบลนนทรี

  1. สระขั้นบันได เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง มีน้ำหลากมาก สามารถกักเก็บน้ำได้มาก และเติมน้ำได้อย่างรวดเร็ว
  2. สระน้ำ เหมาะกับพื้นที่ที่มีน้ำหลากไหลผ่าน น้ำท่วมขัง เก็บกักน้ำได้มาก
  3. บ่อวง เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กที่มีความลาดชัน เป็นร่องน้ำหรือมีทางไหลของน้ำที่ชัดเจน
  4. หลังคา เหมาะกับพื้นที่ชุมชน หรือครัวเรือนที่มีพื้นที่จำกัด น้ำที่เติมลงไปเป็นน้ำสะอาดจึงสามารถใช้ในครัวเรือนได้

 

 

เพิ่มน้ำต้นทุน ปลุกพลังเศรษฐกิจชุมชน

“กลุ่มธุรกิจ TCP ในฐานะองค์กรที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ต้องการให้ชุมชนมีแหล่งน้ำในการอุปโภค บริโภค และการเกษตรอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกร

นี่คือภารกิจด้านการบริหารจัดการน้ำที่คุณสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ได้เริ่มต้นไว้ และลงมือทำโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราได้ให้การสนับสนุนการจัดการน้ำในหลากหลายมิติ เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ต่างๆ”

อาจรีย์ สุวรรณกูล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวและเสริมว่า

“สำหรับโครงการเติมน้ำใต้ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง เราได้เข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อเติมเต็มการทำงานให้ครบทุกมิติ โดยภาครัฐจะดูแลการเติมน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น แม่น้ำ คูคลองต่างๆ บทบาทของกลุ่มธุรกิจ TCP จะเข้าไปช่วยเสริมการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้นในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ผ่านการทำงานอย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่ได้จากโครงการฯ เป็นที่น่าภูมิใจ

เพราะไม่เพียงแค่ทำการเกษตรได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังปลุกพลังเศรษฐกิจชุมชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน จากการที่คนในชุมชนเปลี่ยนมาปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง อาทิ ทุเรียน มังคุดและมะยงชิด โดยในปี 2564 - 2565 มีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรสะสมกว่า 1.8 ล้านบาท และยังพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนวัตวิถีของดีชุมชนอีกด้วย” 

ปัจจุบันตำบลนนทรี อำเภอกบินบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น 7.57 ล้านบาทต่อปี มีกิจกรรมทางการเกษตรที่หลากหลายเพิ่มขึ้นจาก 61 เป็น 123 กิจกรรม ก่อให้เกิดผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน SROI คือ 1 ต่อ 17.09 บาท

 

 

ด้าน ไพจิตร จอมพันธ์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายชุมชนต้นแบบเติมน้ำใต้ดิน กล่าวว่าชุมชนนนทรีจะเน้นการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ โดยที่ผ่านมาชาวบ้านต้องเลือกปลูกพืชที่ทนแล้งได้ดี เช่น มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส เพราะขาดแคลนน้ำ มีปริมาณน้ำไม่แน่นอนในแต่ละปี

“ถึงแม้เราจะช่วยกันใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแก้ปัญหาน้ำ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จนพวกเราอยากจะถอดใจ ทำงานหนักแต่คาดเดาผลผลิตไม่ได้จากปัญหาน้ำที่เกิดขึ้นในแต่ละปี เมื่อมีโครงการเติมน้ำใต้ดินเข้ามาช่วยให้ความรู้ ลงแรงร่วมใจกันในการพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำ ทำให้เกิดความมั่นคงของน้ำ ชาวบ้านสามารถลงทุนปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้น

สามารถสร้างเครือข่ายชุมชนต้นแบบ “เติมน้ำใต้ดิน” ที่มีความแข็งแกร่งและขยายจำนวนครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนในชุมชนได้รับผลประโยชน์ร่วมกันจากการเติมน้ำใต้ดิน มีปริมาณน้ำกิน น้ำใช้ อย่างพอเพียงแม้ในฤดูแล้ง และยังพร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชุมชนอื่นๆ โดยได้ส่งต่อความรู้ให้กับเกษตรกรที่สนใจไปแล้วกว่า 800 คน” 

 

 

ผลงานการดำเนินโครงการเติมน้ำใต้ดินในระดับตื้น ในพื้นที่ตำบลนนทรี ตั้งแต่ปี 2563 – 2565

  • จัดทำระบบเติมน้ำใต้ดินถึง 49 จุด และเติมน้ำได้มากกว่า 5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร
  • มีพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการเติมน้ำใต้ดินทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมกว่า 31,000 ไร่ (ร้อยละ 74 ของพื้นที่ตำบล) จากพื้นที่กว่า 42,000 ไร่
  • มีมูลค่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากโครงการฯ 34.17 ล้านบาท
  • ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน SROI คือ 1 ต่อ 17.09 บาท 

 

 

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาและจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วยการเติมน้ำใต้ดินพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง อยู่ภายใต้โครงการ TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทยที่กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ดำเนินการสนับสนุนเงินทุน 100 ล้านบาทตามแผนการดำเนินงาน 5 ปี (2562 - 2566) ในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำโขง ครอบคลุม 7 จังหวัด ให้ได้เข้าถึงแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคมากกว่า 15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือกว่า 3 เท่าของปริมาณน้ำที่กลุ่มธุรกิจ TCP ใช้ในตลอดกระบวนการ ตามกลยุทธ์ “ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม” 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กลุ่มธุรกิจ TCP และเฟซบุ๊กกลุ่มธุรกิจ TCP

[อ่าน 716]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ พร้อมเปิดให้บริการ 27 กันยายน 2567
ทรู ดึง AI สร้างมูลค่าและขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทย
UNIQLO x Marimekko คอลเลคชันลิมิเต็ดเอดิชันประจำฤดูร้อน
ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุง 802 ล้านบาท พร้อม EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติดต่อกัน
อาริกาโตะ ชวน “คาลพิสแลคโตะ” มารังสรรค์เครื่องดื่มใหม่แสนอร่อย กับ “Arigato Drinking Yogurt”
KBank Private Banking เผยกลยุทธ์ปี 67 ชู ‘สินทรัพย์นอกตลาด’ ปลดล็อกทางเลือกลงทุน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved