Thailand Digital Valley ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศตะวันออกระยะทาง 50 ไมล์ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถรองรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาค โดยคาดว่าจะเกิดการจ้างงานใหม่ในพื้นที่ประมาณ 20,000 ราย และดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ล่าสุด อีริคสันและดีป้ายังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันผ่านการใช้เครือข่าย 5G ในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะประกอบด้วยการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ความรู้ความเข้าใจขั้นสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัยของอีริคสันเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
อีกทั้งในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ระบุว่า อีริคสันและดีป้าจะจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านนวัตกรรม (Innolab) ขึ้นใน Thailand Digital Valley ของดีป้าในจังหวัดชลบุรี เพื่อใช้เป็นศูนย์ทดสอบเครือข่าย 5G และศูนย์บริการสำหรับการทดสอบเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายใหม่ เช่น การแบ่งปันคลื่นความถี่ (Spectrum Sharing) ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการดิจิทัลใหม่ๆ ในประเทศไทย
ดร.เจษฎา ศิวารักษ์ หัวหน้างานฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้นำ 5G ที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทยมายาวนาน 117 ปี บริษัทจะดึงศักยภาพและใช้ประโยชน์จากโซลูชันชั้นนำที่ไว้วางใจได้รวมถึงระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกมาขับเคลื่อนการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศ เราพร้อมทำงานร่วมกับดีป้า ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารของไทย องค์กรธุรกิจ และสตาร์ทอัพเพื่อปลดล็อกศักยภาพของ 5G ผ่านการสร้างยูสเคส 5G ใหม่ๆ ร่วมกัน
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า Thailand Digital Valley จะมีบทบาทสำคัญช่วยยกระดับระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศไทยและเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล กระตุ้นบรรยากาศการลงทุน การค้า และความร่วมมือระดับโลก
จากข้อมูลของดีป้าระบุว่า Thailand Digital Valley จะกลายเป็นระบบนิเวศดิจิทัลสำคัญ และเป็นฐานรากของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ โดยจะสนับสนุนการร่วมกันคิดค้นและพัฒนาฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะใหม่ ๆ (Hardware and Smart Devices) รวมถึงเทคโนโลยีด้านการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (BigData) เทคโนโลยี IoT, ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ซอฟต์แวร์คอนเวอร์เจนซ์ (Software Convergence), นวัตกรรมคลาวด์ (Cloud Innovation) และบริการเนื้อหาดิจิทัล รวมถึงบริการดิจิทัลในด้านอื่น ๆ ครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมแอนิเมชัน เกม และอีสปอร์ต