SEAC ปรับกลยุทธ์วิธีสร้างการเรียนรู้โมเดลใหม่ “Smart Learning”
12 Jun 2023

ซีแอค ส่งนวัตกรรมการเรียนรู้ SEAC’s Smart Learning ด้วยกลไกสร้างความอยากรู้ ลงมือทำจริง สร้างการมีส่วนร่วมสู่การวัดผลที่มีประสิทธิภาพ เจาะตลาดองค์กรทั้งในและต่างประเทศ

 

เปลี่ยนวิธีสอน สร้างความอยากรู้ 

ดร.สิรยา คงสมพงษ์ ที่ปรึกษาอาวุโส SEAC กล่าวว่า อุปสรรคของการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ทำให้ผู้เรียนไม่สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ได้จริงในงานหรือชีวิตประจำวัน คือ เนื้อหาความรู้ไม่ตอบโจทย์การนำไปใช้ได้จริง ถูกบังคับให้เรียนในสิ่งที่ผู้เรียนไม่ได้สนใจจริงๆ ไม่เกิดความอยากเรียนรู้ และวิธีการวัดผลลัพธ์หลังการเรียนรู้ มองว่าแม้เนื้อหาความรู้ยังคงเป็นเนื้อหาเดิม แต่วิธีการเรียนรู้การนำไปใช้คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดการนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและในการทำงาน 

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดธุรกิจด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและองค์กร (Corporate Training) ของประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังโควิด-19 ที่ผู้คนพยายาม Reskill ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง แต่จากงานวิจัยพบว่ากว่า 75% ของผู้เรียนไม่ได้รู้สึกว่าการเข้าฝึกอบรมมีประสิทธิภาพจริงและกว่า 88% ของผู้เข้าเรียนไม่สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการทำงานได้ ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มาก หากเทียบกับตัวเลขผู้เข้าเรียนและเม็ดเงินที่ผู้คนได้ใช้จ่ายให้กับอุตสาหกรรมนี้

อีกทั้งการเรียนรู้การทำ workshop อย่างเดียวยังไม่พอ ซึ่ง SEAC เน้นเรื่องการนำสิ่งที่ได้ไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและในการทำงาน ดังนั้นจึงได้คิดค้นนวัตกรรม SEAC’s Smart Learning เอกสิทธิ์เฉพาะของ SEAC ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้สอนได้ด้วย โดยมี 3 กลไกหลักในการสร้าง Smart Learning ได้แก่ 4 Line Learning คือ รูปแบบการเรียนรู้หลากหลาย, 5 Phase Development คือการออกแบบให้คนอยากเรียนรู้ และ6 Learning Labs จะเป็นห้องเรียนสู่การลงมือทำจริง

ปรับวิธีคิด ใช้ความรู้เดิม สู่การนำมาใช้งานจริง

อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง SEAC กล่าวว่า ในทุกๆ ธุรกิจไม่สามารถจะทำเหมือนเดิมไปได้ตลอด ดังนั้นเมื่อต้อง Reframe องค์กรต้องเป็นผู้สร้างการเรียนรู้นั้นขึ้นมาเอง เพื่อให้เป็นโมเดลของการสร้างการเรียนรู้ที่ได้ผลลัพธ์ที่นำไปใช้ได้จริง สำหรับ SEAC นั้นได้รวบรวมองค์ความรู้ที่มาจากองค์กรต่างๆ มาร่วมจัดเป็น Smart learning ที่สามารถให้องค์กรต่างๆ นำวิธีการนี้ไปปรับใช้กับความรู้ต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปรับเปลี่ยนความรู้นั้นไปใช้ในการทำงาน

“เราต้องทำให้คนต้องรู้สึกถึงอยากเรียนและต้องรู้ว่าเรียนไปทำไม โดยเราไม่ใช้เวลากับเนื้อหา แต่ใช้เวลาในการออกแบบวิธีการเรียนรู้ว่าคนจะนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้จริงอย่างไร”

ทั้งนี้สิ่งที่ต่างไปจากเดิมที่ทำคือ การเข้าไปคุยกับลูกค้าว่าปัญหาที่ลูกค้าพบเจอคืออะไร โดยมีทั้งปัญหาของลูกค้า และการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเรียนรู้ และจะต้องใช้ดึงวิธีการแบบไหนเพื่อให้การนำความรู้นั้นมาใช้ได้จริง  SEAC เข้าไปออกแบบวิธีการเรียนรู้ให้ ซึ่งเริ่มจากองค์กรเอกชนในประเทศไทยก่อน และมีขยายในหลายประเทศในเอเชีย เช่น เวียดนาม เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยคนที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ประมาณ 86% ของผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงขององค์กร 

สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อใช้จริงในองค์กร

เจมส์ เอนเกล Chief Learning Architect ของ SEAC กล่าวว่า หน้าที่ของผู้เรียนคือ การนำความรู้ที่ได้ไปใช้งาน ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้ที่ได้ผลลัพธ์อย่างแท้จริงของการเข้าเรียน โดยขั้นตอนการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงต้องทำให้มีการนำความรู้เข้าไปในชีวิตประจำวันของผู้เรียนให้ได้ แน่นอนที่ธุรกิจให้ความสำคัญเรื่องงบประมาณที่ต้องใช้ในการผลักดันให้พนักงานเกิดการเรียนรู้ ซึ่งโปรแกรมนี้ทำให้ธุรกิจจ่ายเงินในการเรียนรู้น้อยลงกว่าเดิม แต่พนักงานได้ประสบการณ์เรียนรู้ที่เปลี่ยนไปและได้ลงมือทำจริงจากความรู้ที่ได้ 

ทั้งนี้สิ่งที่ SEAC ทำคือ ทำให้ผู้เรียนรู้ตั้งแต่ต้นว่าความรู้ที่ได้จากการเรียนจะนำไปใช้กับงานด้านใด สถานการณ์แบบไหนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีทิศทางในการนำไปใช้จริง เรียนรู้จากสิ่งที่ผู้เรียนอยากรู้ โดยวิธีนี้สามารถวัดผลลัพธ์ได้จริง ซึ่ง SEAC มีเครื่องมือช่วยติดตามการเรียนของผู้เรียนในการใช้วัดผลของการนำความรู้ไปใช้ ซึ่งการเรียนแบบสร้างการมีส่วนร่วมด้วยกันทำให้เกิดผลลัพธ์การนำไปใช้จริงอย่างเห็นได้ชัดและส่งผลต่อองค์กรในเรื่องการทำงานโดยตรง

อีกทั้งที่ผ่านมา SEAC มีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 2,000,0000 คน สร้างอัตราความสำเร็จหลักสูตรได้ถึง 77% และ 95% ของผู้เรียนกล่าวว่าสามารถนำความรู้และทักษะออกไปใช้สร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริง ทั้งนี้ SEAC ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านการเรียนรู้ที่นำไปปรับใช้ได้จริง (Empower Lives Through Learning) โดย SEAC's Smart Learning จะเป็นโซลูชั่นที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกตั้งแต่ฐานรากของชีวิต ไปจนถึงระดับองค์กรได้

SEAC’s Smart Learning

4Line Learning

รูปแบบการเรียนรู้ที่ออกแบบมาให้ผู้เรียนได้รับประสิทธิผลและผลลัพธ์สูงสุด 

OnLine เรียนรู้ทฤษฎีได้ทุกที่ทุกเวลาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เปลี่ยนเนื้อหาที่มีแต่ตัวหนังสือน่าเบื่อให้เป็น
การเรียนรู้ที่สนุก ปูพื้นฐานให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจและนำไปใช้ได้จริงก่อนเวิร์คช็อป ด้วยเนื้อหาระดับโลก
ที่ดีที่สุด

InLine เรียนจริง ปฏิบัติจริงกับโค้ชตัวจริง ร่วมกับเพื่อนๆ คนอื่น เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาที่ได้รับเข้ากับสถานการณ์จริงที่เต็มไปด้วยความท้าทาย พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้สึกกับผู้เรียนที่หลากหลาย

FrontLine เรียนรู้ผ่านเครื่องมือ และคอมมูนิตี้เพื่อการประยุกต์ในชีวิตจริง ทั้งการทำโปรเจกต์ตามที่กำหนด และการลงภาคสนามฝึกทักษะ และฝึกปฏิบัติ

BeeLine คอมมูนิตี้ต่อยอดการเรียนรู้ หรือพื้นที่สำหรับมาแชร์ประสบการณ์ และผลลัพธ์จากการนำสิ่งที่เรียนไปต่อยอดการเรียนรู้ให้กันและกัน จากประสบการณ์การลงมือทำจริงของผู้เรียนที่มีความหลากหลายเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า และร่วมมือกันวางแผนสิ่งที่จะทำต่อไป

 

 

5Phase Development

กรอบการออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ที่คำนึงถึงบริบทของผู้เรียน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ชุดทักษะ ชุดเครื่องมือ และกรอบความคิดใหม่ๆ อีกทั้งสามารถนำไปปรับหรือประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 5 เฟส ได้แก่

Introduce & Enroll การทำให้ผู้เรียนเล็งเห็นความสำคัญ และผลลัพธ์ที่ดีก่อนเข้าเรียน ผ่านเครื่องมือ
สร้างแรงบันดาลใจรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดประตูสู่ความรู้สึกอยากเรียนรู้ และพัฒนาตนเองที่มาจากตนเอง
โดยแท้จริง

Baseline & Measure การสำรวจพฤติกรรมตัวเอง ค้นหาช่องว่าง และโอกาสในการพัฒนาตนเองที่ตรงกับ
ทั้งความต้องการ และศักยภาพที่ซ่อนอยู่ สู่การค้นพบคุณค่าที่การเรียนรู้จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

Connect & Inspire การเข้าคอมมูนิตี้ที่จะสนับสนุนความสำเร็จให้กันและกัน ผ่านการสร้างสายสัมพันธ์ 
และแพชชั่นที่จะช่วยกันบรรลุเป้าหมายการพัฒนาตนเองได้เร็วขึ้นผ่านการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยน และการเติมเต็มแรงบันดาลใจจากเพื่อนรอบตัว 

Build & Integrate ผู้เรียนสามารถสร้างกรอบความคิด และทักษะที่เชื่อมโยงกับตนเอง สู่การนำไปประยุกต์
ใช้ในชีวิต โดยเชื่อมโยงเนื้อหา และเครื่องมือที่เรียนเข้าสู่สถานการณ์ และบริบทของผู้เรียน ให้รู้ว่าจะนำไปใช้
จริงอย่างไร

Consolidate & Sustain ผู้เรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ และการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน 
มีการวางแผนร่วมกันกับผู้เรียนคนอื่น เพื่อช่วยเหลือ แบ่งปันประสบการณ์ และความรู้ระหว่างกัน

 

 

6 Learning Labs

พื้นที่แห่งการลงมือปฏิบัติจริงในรูปแบบกลุ่ม ที่ผู้เรียนจะได้นำทฤษฎี และทักษะมาฝึกปฏิบัติ อภิปราย และแบ่งปันกับผู้เรียนคนอื่น 

1. Unpacking สรุปทบทวนเนื้อหา สร้างความเข้าใจในเชิงลึก หลังเวิร์คช็อปหรือคลาสเรียน ช่วยให้ผู้เรียนทบทวน และเข้าใจเนื้อหา เครื่องมือ และโมเดลที่เรียนมาในเชิงลึก และประยุกต์ใช้ได้

2. S.T.A.R.2 Application & Reflection การตั้งเป้าหมาย กำหนดวิธีการลงมือ และเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ โดยใช้โมเดล S.T.A.R.2 ลงมือปฏิบัติตามแผน และนำกลับมาสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการลงมือทำเพื่อพัฒนา
ต่อยอดการเรียนรู้

3. Skills Practice  สนามฝึกซ้อมทักษะ สร้างความมั่นใจก่อนลงมือใช้จริง เน้นการฝึกฝนเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อหรือการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนนำไปใช้จริง

4. Coaching ผู้เชี่ยวชาญให้เครื่องมือ และสนับสนุนผู้เรียนให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของเป้าหมายที่โค้ช และผู้เรียนตั้งไว้ร่วมกัน 

5. Impact Presentations ผู้เรียนประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนกับงานจริงผ่านโปรเจ็กต์การเรียนรู้ แล้วกลับมานำเสนอผลลัพธ์ที่ดีที่เกิดขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ เป็นการสะท้อนถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการเรียนรู้ และการลงมือทำจริง
ของผู้เรียน

6. Communities of Practice ชุมชน และพื้นที่ของนักปฏิบัติเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทักษะ และประสบการณ์ เพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนร่วมกัน

[อ่าน 334]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรภายหลังการปรับปรุง 802 ล้านบาท พร้อม EBITDA เพิ่มขึ้น 5 ไตรมาสติดต่อกัน
อาริกาโตะ ชวน “คาลพิสแลคโตะ” มารังสรรค์เครื่องดื่มใหม่แสนอร่อย กับ “Arigato Drinking Yogurt”
KBank Private Banking เผยกลยุทธ์ปี 67 ชู ‘สินทรัพย์นอกตลาด’ ปลดล็อกทางเลือกลงทุน
เรดบูล เอเนอร์จี้โซดา จัด Esports ทัวร์นาเมนต์ RoV พร้อมหนุนจัดเทศกาลกีฬากรุงเทพ และ Bangkok Esports 2024

TOA โชว์วิชั่นผู้นำนวัตกรรมรักษ์โลก ชูแนวคิดความยั่งยืน “Future Tree” ในงานสถาปนิก’67
Taiwan Excellence โชว์เคสนวัตกรรมสีเขียว ในมหกรรมสถาปนิก' 67
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved