ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันภัยดิจิทัลที่มีอยู่หลายรูปแบบ อาทิ การระรานทางไซเบอร์ การถูกเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบ การฉ้อโกงออนไลน์ รวมทั้งข่าวปลอม เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด ญาติสนิทมิตรสหายหรือแม้แต่ตัวเราล้วนประสบพบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้หนักเบาแตกต่างกันไป
ท่ามกลางสภาวการณ์ที่โลกจริงกับโลกเสมือนรวมเป็นเนื้อเดียวอย่างที่แยกจากกันไม่ออกเช่นนี้ ‘AIS’ ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่นอกจากจะพัฒนา Digital Infrastructure แล้ว ยังตระหนักถึงการส่งเสริมให้ทุกคนรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ และใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ผ่านโครงการ ‘AIS อุ่นใจไซเบอร์’ ที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2562
โดยมีทั้ง Digital solutions ที่ช่วยป้องกันมิจฉาชีพผ่านบริการต่างๆ และการสร้างองค์ความรู้ (Wisdom) ผ่านหลักสูตร ‘อุ่นใจไซเบอร์’ ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกัน AIS และภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงมหาดไทย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
อันนำไปสู่เป้าหมายร่วมกันในการยกระดับการเรียนการสอน ปลูกฝังทักษะดิจิทัล ผ่านเนื้อหา 4 Professional Skill Module หรือ 4P4ป คือ
1) Practice: ปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้องและเหมาะสม
2) Personality: แนะนำการปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
3) Protection: เรียนรู้การป้องกันภัยไซเบอร์บนโลกออนไลน์
4) Participation: รู้จักการปฏิสัมพันธ์ด้วยทักษะ และพฤติกรรมการสื่อสารบนออนไลน์อย่างเหมาะสม
เพื่อส่งเสริมและสร้างทักษะดิจิทัลให้คนไทยรู้เท่าทัน ปกป้องภัยไซเบอร์ รวมถึงสร้างภูมิคุ้มกันการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้กับเด็ก เยาวชน และคนไทย พร้อมอยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์
สายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า
จากผลการศึกษาล่าสุดของดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย หรือ Thailand Cyber Wellness Index พบว่า กลุ่มนักเรียนที่เราอาจจะเข้าใจว่าสามารถใช้งานสื่อดิจิทัลออนไลน์ได้อย่างเชี่ยวชาญในฐานะคนรุ่นใหม่ แต่ผลวิจัยกลับชี้ว่า เป็นอีกกลุ่มสำคัญที่ต้องเพิ่มทักษะความรู้ความเข้าใจให้สามารถใช้งานดิจิทัลได้อย่างถูกต้อง
“เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของภัยไซเบอร์ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่วันนี้เราได้ทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพื่อขยายผลส่งต่อ หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ ไปยังสถานศึกษาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราเดินหน้านำหลักสูตรการเรียนรู้ดังกล่าว ส่งต่อไปยังบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กว่า 29,000 แห่งทั่วประเทศ
รวมทั้งขยายผลไปสู่ระดับมหาวิทยาลัย ทั้งมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา หรือแม้แต่การส่งต่อไปยังภาคประชาชนผ่านหน่วยงานความมั่นคงอย่าง สกมช. และกลุ่มผู้สูงวัยมีการใช้สื่อโซเชียลมากขึ้น ทำให้เป็นช่องทางของมิจฉาชีพในการเข้ามาหลอกลวงได้อย่างง่ายดาย”
ด้าน ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า
นโยบายด้านการศึกษาคือหนึ่งในภารกิจของกรุงเทพมหานคร ภายใต้นโยบายเรียนดีของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่มีเป้าหมายสำคัญในการมุ่งพัฒนาการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้มีความทันสมัยสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของโลกดิจิทัลและเทคโนโลยี
“โดยเฉพาะเนื้อหา หรือแม้แต่ทักษะด้านดิจิทัล ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานบนโลกออนไลน์ให้มีความปลอดภัยและเหมาะสม ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากผู้ไม่หวังดีและมิจฉาชีพ ซึ่งความร่วมมือกับ AIS รวมถึงกรมสุขภาพจิต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะมาช่วยส่งเสริมนโยบายด้านการศึกษาของกรุงเทพมหานครให้ยกระดับไปอีกขั้น ”
ทั้งนี้ หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ จะถูกนำเข้าไปบูรณาการเป็นสื่อการเรียนการสอน ในวิชาวิทยาการคำนวณ สังคมและแนะแนว รวมถึงรูปแบบการเรียนการสอนที่สอดคล้องเหมาะกับแต่ละสถาบันการศึกษา ให้แก่ นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งในระดับอนุบาล, ประถมศึกษา, มัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวม 437 แห่ง
ซึ่งจะทำให้ทั้งบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนโดยรอบในชุมชนมากกว่า 250,000 คน ได้เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ จนนำไปสู่การเสริมสร้างทักษะดิจิทัล การใช้งานสื่อดิจิทัล และเทคโนโลยีให้มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ไม่ตกเป็นเหยื่อของการใช้งานออนไลน์ และมิจฉาชีพ สามารถใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย โดยเริ่มตั้งแต่ภาคการศึกษา 2566 เป็นต้นไป
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ จะทำให้เยาวชน บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะยกระดับดัชนีสุขภาวะดิจิทัลของเด็กไทยและคนไทยให้อยูในระดับที่เพิ่มสูงขึ้น”
รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวเสริม พร้อมกับเปิดเผยถึงความมุ่งหมายว่าจะนำหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์นี้เข้าไปในโรงเรียนเทศบาล ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และวิทยาลัยต่างๆ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาต่อไป