หมดยุคฟาสต์แฟชั่น ‘The Good Shop’ ไอเดียบอกรัก(ษ์)โลกด้วย Slow Fashion
05 Sep 2023

วีโร่ บริษัทที่ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ เปลี่ยนบรรยากาศภายในสำนักงานกรุงเทพฯ เนรมิตโถงออฟฟิศให้กลายเป็นป๊อปอัพสโตร์แฟชันมือสอง ต้อนรับทั้งผู้มาเยือนและพนักงานด้วยชั้นวางไอเทมสินค้าแฟชันและตู้โชว์เสื้อผ้าที่สร้างขึ้นจากโครงอลูมิเนียมและแผ่นไม้ที่นำมารีไซเคิล นำเสนอแอกเซสซอรี่หลากหลายสไตล์และแขวนโชว์เสื้อผ้าดีไซน์สุดชิค ตั้งแต่ผ้ายีนส์วินเทจ เครื่องประดับระยิบระยับ เสื้อผ้าสตรีทสุดฮิป ชุดราตรีสุดหรู ค็อกเทลเดรส และเสื้อผ้าบุรุษที่มีให้เลือกมากมาย

ป๊อปอัพสโตร์แฟชันมือสองภายใต้ชื่อ 'The Good Shop' เป็นโครงการที่ให้พนักงานในออฟฟิศของวีโร่สามารถซื้อ ขาย และส่งต่อไอเทมแฟชันที่ใช้แล้วแต่ยังมีสภาพดีให้แก่กันโดยไม่มุ่งเน้นผลกำไร เพื่อส่งเสริมแนวทางการบริโภคที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและอาจเป็นจุดเริ่มต้นของป๊อปอัพสโตร์สินค้ามือสองในออฟฟิศที่แรกของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้

 

 

อุมาพร วิทเทเกอร์-ทอมป์สัน รองประธานบริหารกลุ่มฝ่าย Consumer Communications วีโร่ ประเทศไทย เผยว่า

“แรงบันดาลใจที่เป็นจุดเริ่มต้นของร้าน The Good Shop เกิดจากความต้องการที่อยากให้ทุกคนได้สนุกกับแฟชันอย่างยั่งยืนมากขึ้น เราจึงอยากเผยแพร่แนวคิดด้าน slow fashion ให้เข้าถึงสมาชิกวีโร่ทุกคน

โดย The Good Shop เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ชาววีโร่ได้ขายและส่งต่อไอเทมแฟชันที่อยู่ในสภาพดีให้สมาชิกวีโร่คนอื่นๆ และส่งต่อคุณค่าให้ทุกคนร่วมกันสนับสนุนความยั่งยืนมากขึ้น พร้อมกับแสวงหาวิธีใหม่ๆ ในการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองผ่านตัวเลือกแฟชันใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน”

 

ศีตลา แสงแก้ว ผู้อำนวยการฝ่าย Digital Creative วีโร่ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มว่า

“ทุกขั้นตอนของ The Good Shop เป็นไปตามแนวคิด 3R ได้แก่ Reduce (คิดก่อนใช้), Reuse (ใช้ซ้ำ) และ Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่)

เราใส่ใจในคุณค่าของวัสดุที่นำมาใช้ทำบูธทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตู้ลิ้นชักที่ทำจากตะกร้าผลไม้เก่าและไม้แขวนเสื้อที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล แม้แต่ฐานของชั้นโชว์เสื้อผ้าเราก็ยังนำกล่องกระดาษแข็งที่เก็บไว้ในออฟฟิศมาใช้ รวมไปถึงป้ายเสื้อก็ยังทำจากกระดาษใช้แล้ว

และเรายังเลือกยังใช้ตรายางในการปั๊มโลโก้ร้านเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการพิมพ์ นอกจากนี้ เจ้าของสินค้ายังสามารถเขียนอธิบายเกี่ยวกับไอเทมชิ้นโปรดที่รอส่งมอบให้เจ้าของใหม่ได้ด้วย

เราหวังว่า ร้าน The Good Shop จะส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนเริ่มต้นสร้างไลฟ์สไตล์ที่ให้คุณค่ากับความยั่งยืนกันมากขึ้น เพราะจากก้าวเล็กๆ ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้”

 

 

ประเทศไทยกับเทรนด์ฟาสต์แฟชัน (Fast Fashion)

ประเทศไทยถือเป็นเมืองแห่งการช้อปปิงสินค้าฟาสต์แฟชัน และเป็นหนึ่งในผู้มีส่วนก่อให้เกิดขยะสิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่มีต่อแฟชันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความตระหนักรู้มากขึ้นเกี่ยวกับรอยเท้าทางนิเวศ (Ecological Footprint) ของอุตสาหกรรมแฟชัน

โดยเฉพาะกลุ่มเจนซี (Gen Z) ในกรุงเทพฯ ที่หันมาเปลี่ยนนิสัยการเลือกซื้อสินค้าโดยพิจารณาถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากแบรนด์หรือสินค้าต่างๆ การให้ความสำคัญต่อแนวคิดเรื่องสิทธิมนุษยชน การจ้างงานที่เป็นธรรม และโครงการด้านสิ่งแวดล้อม1

 

เทรนด์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยยังสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ Second-hand Economy ซึ่งเป็นการส่งต่อสินค้ามือสองที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก โดยตลาดสินค้ามือสองสะท้อนถึงจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยในปี 2565 ตลาดสินค้ามือสองมีมูลค่ามากกว่า 4.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.42 หมื่นล้านบาท) และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 25743 ซึ่งแฟชันมือสองเพียงอย่างเดียวคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 127% ขึ้นมาอยู่ที่ 218 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 ซึ่งสูงกว่ามูลค่าตลาดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั่วโลกถึงสามเท่า4

นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ผู้บริโภคยังซื้อสินค้ามือสองประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ อุปกรณ์กีฬา เครื่องมือ และเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

ผลการศึกษาจากหลายแห่งยังระบุว่า ผู้บริโภคในกลุ่มเจนซีเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนพฤติกรรมนี้ โดย 80% กล่าวว่า ความเขินอายที่ทำให้คนไม่กล้าซื้อสินค้ามือสองตอนนี้ส่วนใหญ่หายไปแล้ว

ผู้บริโภคกลุ่มนี้ตระหนักถึงผลกระทบจากการบริโภคที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และเชื่อว่าการซื้อสินค้าใช้แล้วมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดขยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความยั่งยืนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมค้าปลีก พอๆ กับราคา คุณค่า สไตล์ และคุณภาพ

ซึ่งเศรษฐกิจแบบ Second-hand Economy เริ่มประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ เราจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ตลาดธุรกิจสินค้ามือสองเป็นปัจจัยที่ช่วยขยายขอบเขตทางธุรกิจให้เติบโตและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ การจัดโครงการ The Good Shop ยังเปิดโอกาสให้วีโร่ได้ส่งต่อข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและจริยธรรมในการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปให้คนวัยทำงานรุ่นใหม่ได้รับรู้โดยตรง

นอกจากนี้ ยังช่วยให้วีโร่เข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสินค้ามือสองที่กำลังได้รับแรงความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทย

 

ไบรอัน กริฟฟิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีโร่ กล่าวว่า

“โครงการ The Good Shop เป็นก้าวที่พิเศษที่ทำให้เราได้เข้าถึงและทำความเข้าใจพลวัตทางธุรกิจเกี่ยวกับความยั่งยืนและแฟชันอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่สร้างสรรค์และสื่อสารออกไปให้ผู้คนได้รับรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจและกระตุ้นให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน

นอกจากการระดมไอเดีย การออกแบบ และการลงมือทำจนร้าน The Good Shop ออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทีมครีเอทีฟของวีโร่ยังได้เสนอวิธีการที่สร้างสรรค์ในการส่งต่อคุณค่าและจุดประกายเกี่ยวกับ Slow Fashion เราเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้วีโร่เป็นที่ปรึกษาและผู้แก้ปัญหาให้กับลูกค้าที่เผชิญความท้าทายด้านความยั่งยืนได้ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่กำลังเผชิญความท้าทายด้านนี้อยู่”

 

 

โครงการ The Good Shop ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของวีโร่ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในภูมิภาค ที่มีความเสี่ยงจากการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยเมื่อปีที่แล้ว วีโร่เป็นหนึ่งในผู้ลงนามปฏิญญา Clean Creatives กลุ่มแรกๆ ที่ปฏิเสธการเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล

และในเดือนพฤษภาคมปีนี้ วีโร่ยังได้เผยแพร่คู่มือเกี่ยวกับการสื่อสารด้านความยั่งยืนสำหรับองค์กร เพื่อเป็นแนวทางให้กับแบรนด์ต่างๆ ทำความเข้าใจและวางแผนรับมือกับความซับซ้อนในการสื่อสารด้านความยั่งยืนได้อย่างโปร่งใสและน่าเชื่อถือ

[อ่าน 317]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
TikTok ดึง 18 กูรู อัปสกิลดิจิทัล MSMEs ไทย เปิดตัว "TikTok Experts"
TOA เปิดนโยบาย GREEN MISSION เดินหน้าพันธกิจพิชิต Net Zero
LOVEiS ผนึก Muzik Move คว้า 4 ศิลปินดังแห่งยุค รวมตัวใน The Kingdoms Concert
หลังคา ฝาฝ้า ฉนวน และวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี ต่อยอดตลาดสินค้าและนวัตกรรมกรีนเพื่อที่อยู่อาศัย
HONOR ครองอันดับหนึ่งตลาดสมาร์ตโฟนจีน Q1/2567 พร้อมเผยเบื้องหลังสู่การเติบโตอย่างรวดเร็ว
ttb reserve เผยกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจต่อยอดความมั่งคั่งลูกค้า Wealth ด้วยโซลูชันทางการเงินครบทุกมิติ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved