ประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย พร้อมด้วย กลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และโนริอากิ ยามาชิตะกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบทุนสนับสนุนประจำปี 2566 แก่สถาบันการศึกษาและองค์กรสาธารณกุศล รวมมูลค่า 17.55 ล้านบาท
โดย “มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย” ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 ภายใต้เจตนารมณ์ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงมอบโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเด็กและเยาวชน ให้ได้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ จากสถาบันการศึกษาในประเทศ เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลอันเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ
ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมสังคมอย่างยั่งยืนผ่าน 3 แนวทาง
พิธีมอบทุนในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทางมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน โดยในปีนี้ มูลนิธิฯ มีการเพิ่มเติมทุนการศึกษาสำหรับการส่งเสริมฝีมือแรงงานวิชาชีพ ด้วยการสนับสนุนทุนพยาบาล และทุนอาชีวศึกษา เพื่อส่งเสริมการพัฒนางานด้านสาธารณสุข และภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง “อุตสาหกรรมใหม่” (New S-curve) อาทิ การผลิตบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในด้านอาชีวะ รวมถึงการมอบทุนสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) เป็นต้น อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมการสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนและชุมชน เพื่อให้เด็กในวัยเรียนได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ รวมถึงการสนับสนุนในด้านสาธารณูปโภค เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
โดยในปี พ.ศ. 2566 นี้ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ได้สนับสนุนงบประมาณ ด้านการศึกษา และด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมมูลค่า 17,550,000 บาท ตามรายละเอียดดังนี้
มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งเน้นการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องมาตลอด 31 ปี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน เหมาะสม และเท่าเทียมกัน รวมถึงช่วยให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเติบโตด้วยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นรากฐานที่แข็งแรงในการพัฒนาประเทศ
อันจะนำไปสู่การยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไปในอนาคต