แม้จะเป็นชื่อที่คนไทยส่วนใหญ่ (ที่ไม่ใช่สายบิดและคนในวงการยานยนต์) ไม่คุ้นหูนัก แต่ “ยาเดีย” (Yadea) ผู้นำระดับโลกด้านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ก็เป็นผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งในตลาดนี้ โดนยืนหยัดเป็นตัวท็อปมานาน
ยาเดียจริงจังกับการวิจัยและพัฒนาเป็นอย่างมาก โดยในปี 2565 ได้เพิ่มงบ R&D ถึง 31.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ปัจจุบันมีศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี 6 แห่ง ศูนย์การออกแบบอุตสาหกรรมแห่งชาติ 1 แห่ง และห้องปฏิบัติการแห่งชาติ CNAS 2 แห่ง มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนามากกว่า 1,000 ราย และมีสิทธิบัตรมากกว่า 1,800 รายการ
ยาเดียทุ่มเทในการเรียนรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีหลักของยานพาหนะไฟฟ้า โดยยึดมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพระดับสากล
ดังนั้นจึงเป็นอีกผู้เล่นหนึ่งที่น่าจับตาและมีบทบาทในการขับเคลื่อนตลาดยานยนต์ไฟฟ้าให้กับโลก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
ล่าสุดเตรียมปรากฏตัวเป็นครั้งที่ 6 ในมหกรรมรถจักรยานยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง EICMA ประจำปี 2566 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 ถึง 12 พฤศจิกายนนี้ ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี
โดยยาเดียได้ร่วมมหกรรม EICMA มาตั้งแต่เมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่หายากทั่วโลก ด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 20 ปีในด้านรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ยาเดียยึดหัวหาดแบรนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งของโลกในเป็นเวลาหกปีติดต่อกัน เฉพาะยอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2565 มีจำนวนถึง 14.01 ล้านคันทั่วโลก
ทั้งนี้ Yadea Group Holdings Ltd. ก่อตั้งเมื่อปี 2001 เป็นผู้ผลิตรถจักรยานไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ และสกู๊ตเตอร์สัญชาติจีน มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รวมถึงเป็นเจ้าของโรงงานผลิต 7 แห่งในจีน ในเมืองอู๋ซี เทียนจิน ฉือซี และชิงหยวน
ด้านผลลัพธ์ทางการเงินที่สำคัญ ยาเดียยังไม่แผ่ว ในปี 2022 มีรายได้ 31.1 พันล้านหยวน (เพิ่มขึ้น 15% จากปีงบประมาณ 2021) รายได้สุทธิ 2.16 พันล้านหยวน (เพิ่มขึ้น 58% จากปีงบประมาณ 2021) อัตรากำไร 7.0% (เพิ่มขึ้นจาก 5.1% ในปีงบประมาณ 2021) โดยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่สูงขึ้น
#ยาเดีย #Yadea #รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า #ยานยนต์ไฟฟ้า #พลังงานสีเขียว #พลังงานไฟฟ้า
#MarketPlusDaily #MarketPlusUpdate