สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาที่อยู่รอบตัวคนไทยและสร้างผลกระทบต่อสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี 2567 มานี้ มีรายงานค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ประเทศไทย
โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครฯ ที่มีค่า PM2.5 เกินค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ อาทิ เขตบางคอแหลมและเขตลาดกระบัง ที่มีค่า PM2.5 สูงถึงกว่า 70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ชีวิตประจำวันของผู้คนเกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคในระบบทางเดินหายใจต่างๆ
อีกทั้ง “ฝุ่นพิษ” เหล่านี้ยังสามารถอยู่ได้รอบตัวไม่เว้นแม้แต่ภายในอาคาร ทำให้คนอีกกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังคือกลุ่มของเด็กเล็กในพื้นที่โรงเรียนหรือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่ ต้องเสี่ยงกับอันตรายต่อการเกิดโรคเรื้อรังและกระทบต่อพัฒนาการในระยะยาว
เป็นที่มาความร่วมมือของ “ไดกิ้น” กับหน่วยงานในเขตกรุงเทพมหานคร ดำเนินการโครงการ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ตามแนวทางของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไดกิ้น และเครื่องระบายอากาศชนิดแลกเปลี่ยนความร้อนไดกิ้น ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อสุขภาพและพัฒนาการที่ดีของเด็กทุกคน
เจษฎา ทรัพย์เจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า นวัตกรรมของไดกิ้นได้เข้ามามีบทบาทกับการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ให้แก่ผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่องในหลายปีหลัง ภายใต้เทคโนโลยีการปรับอากาศที่สามารถลดมลพิษและสิ่งแปลกปลอม พร้อมสร้างอากาศที่สมบูรณ์แบบต่อทุกการอยู่อาศัย ตลอดจนประหยัดพลังงาน
“ผลจากการดำเนินงานทำให้ไดกิ้นเข้าใจความต้องการด้านสุขภาพของคนไทยมากขึ้นและยังช่วยให้บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญในการดูแลสุขอนามัยของเด็กเล็ก ที่ต้องการพื้นที่เพื่อการเติบโตและสร้างพัฒนาการอย่างมีคุณภาพ โดยได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศไดกิ้น จำนวน 2 ชุด และเครื่องระบายอากาศชนิดแลกเปลี่ยนความร้อนไดกิ้น จำนวน 2 ชุด ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนฟื้นนครร่มเกล้า ระยะ 4 โซน 10 ในเขตลาดกระบัง”
ด้าน ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวว่า กทม. ให้ความสำคัญต่อแนวทางสร้างเสริมประสิทธิภาพกับศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนมาโดยตลอด เพื่อมุ่งปูพื้นฐานให้เด็กวัย 2-6 ปี ได้มีพัฒนาการที่ดีและพร้อมเปิดรับการเรียนรู้ต่อไปในวันข้างหน้า
“เราจึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมเพื่อเป็นเกราะป้องกันสุขภาพเด็กในวัยกำลังเติบโต โดยเฉพาะต่อฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นสถานการ์เร่งด่วนในตอนนี้ ด้วยการประสานความร่วมมือกับเอกชนที่มีศักยภาพและเห็นความสำคัญของการสร้างห้องเรียนอากาศสะอาด เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากไดกิ้น จนสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัย ปลอดฝุ่น และมีมาตรฐานให้แก่เด็กๆ”
ผศ.ดร.ประพัทธ์ พงษ์เกียรติกุล ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวเสริมว่า ห้องปลอดฝุ่นเป็นมาตรการที่สำคัญอย่างมากในการป้องกันผู้ที่อยู่อาศัยจากการสัมผัส PM2.5 ในบรรยากาศภายนอก การสนับสนุนของไดกิ้นในครั้งนี้ นอกจากเด็กๆ จะได้รับระบบปรับอากาศและระบบระบายอากาศ ที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
ไดกิ้นยังได้เอื้อเฟื้อถึงการนำระบบระบายอากาศแบบครบวงจรมาติดตั้ง ช่วยสร้างสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ และทำกิจกรรมของเด็ก ทั้งการเรียน การเล่น หรือการพักผ่อน ซึ่งหัวข้อเหล่านี้จะได้รับการศึกษาและนำไปขยายผลต่อยอด เพื่อเป็นประโยชน์ ให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ อีกมากกว่า 290 แห่งในกรุงเทพมหานครและได้รับการพัฒนาให้มีอากาศสะอาดครอบคลุมเพื่อเด็ก ๆ ทุกคน
นอกจากนี้บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด และบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ ( ประเทศไทย) จำกัด ยังได้ส่งมอบเครื่องปรับอากาศไดกิ้น พร้อมงานติดตั้ง จำนวน 8 ชุด ให้กับโรงเรียนวัดไทร และโรงเรียนวัดราชสิงขร สำนักงานเขตบางคอแหลม เพื่อจัดทำห้องปลอดฝุ่นในห้องเรียนระดับชั้นอนุบาลหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องโครงการห้องปลอดฝุ่นในพื้นที่เขตบางคอแหลม