เข้าใจลูกค้า Digital Gen สร้างธุรกิจเติบโต
01 Apr 2020

 

จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผันผวนและการระบาดของ COVID-19 ล้วนสร้างความสั่นคลอนให้ระบบเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นในการบริโภคสินค้าและบริการ แล้วธุรกิจต่างๆ จะต้องปรับและรับมืออย่างไรในภาวะแห่งความเปลี่ยนแปลงซึ่งเสี่ยงต่อการถูก Disruption ทั้งจากคู่แข่งนวัตกรรม เทคโนโลยี หรือแม้แต่จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละ Gen โดยเฉพาะกลุ่มชาว Millennials และ Gen Z จึงเป็นหัวข้อหนึ่งที่นักการตลาดทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

 

แล้วคนแต่ละกลุ่มนับจากปีใดบ้าง?

Pew Research Center สถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา ได้นิยามระบุความหมายไว้ว่า Baby Boomers คือ กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1946-1964 Generation X คือ กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1965-1980 Millennials หรือคน Generation Y คือ กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1981-1996 และ Generation Z คือ กลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1997-2012 เมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลจาก Worldometers ที่ระบุว่า ปัจจุบันประชากรโลกมีอยู่ 7,794 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ชาย 50.4% ผู้หญิง 49.6% โดยประชากรช่วงอายุ 25-54 ปี มีจำนวนมากที่สุด คิดเป็น 40.59% คนกลุ่มนี้ ครอบคลุมกลุ่ม Millennials และ Gen X รวมกัน ด้วยกลุ่มนี้เป็นคนวัยทำงานทำให้มีการใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มอื่น นอกจากนี้ ข้อมูลจาก UN ยังบ่งชี้ว่า ในปี 2020 Gen Z จะก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มคนจำนวนมากที่สุดในโลก คิดเป็น 32% แซงหน้ากลุ่ม Millennials ซึ่งมีจำนวน 31.5% ดังนั้น การศึกษาพฤติกรรมของ 2 Gen นี้ จึงเป็นการสร้างความเข้าใจตลาดลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สุดที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

 

 

จากข้อมูลในรูปจะเห็นว่า จำนวนสัดส่วนประชากรในเอเชียมีมากที่สุด 59.5% ตามมาด้วยแอฟริกา 17.2% และยุโรป 9.6% ของประชากรทั่วโลกซึ่งประเทศในเอเชียนำโดยจีนและอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุด คิดเป็น 18.47% และ 17.70% ของประชากรโลกตามลำดับ ทั้งนี้ จีน และ อินเดีย คือประเทศที่มีประชากรกลุ่ม Millennials มากที่สุดในโลก

 

Bain & Company ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า ในปี 2019 ตลาดสินค้าหรูมีมูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโต 4% แม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ จะไม่เอื้ออำนวยนัก โดยช่องทางออนไลน์และสินค้ามือสอง เป็นปัจจัยหลักหนุนตลาด เป็นผลมาจากการปรับรูปแบบธุรกิจ พัฒนาแบรนด์ และนำเสนอเชิงคุณค่า เพื่อตอบสนองลูกค้าสินค้าหรูที่เป็นวัยรุ่น ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาวจีนเป็นกลุ่มที่เติบโตมากกว่า 90% คิดเป็นมูลค่าในตลาดสินค้าหรู 35%

 

กลุ่มลูกค้าชาว Millennials คิดเป็น 35% ของทั้งหมด โดยคาดว่า ในปี 2025 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 45% ของตลาดสินค้าหรูส่วนกลุ่ม Gen Z นั้น คาดว่าจะมีสัดส่วน 40% ภายในปี 2035 ด้วยพฤติกรรมการบริโภคที่กล้าใช้จ่ายมากกว่าคนกลุ่มอื่น ทั้งยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเอเชีย พวกเขายินดีที่จะกลับไปซื้อสินค้าอีกหากแบรนด์เหล่านั้นมีความจริงใจและสร้างอารมณ์ร่วมกับพวกเขา

ลูกค้าแบรนด์หรูกว่า 80% ต้องการให้แบรนด์เหล่านั้นมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะกลุ่มชาว Millennials และลูกค้าแบรนด์หรู 60%คิดว่า แบรนด์หรูเหล่านี้ควรมีส่วนร่วมในเรื่องนี้มากกว่าในอุตสาหกรรมอื่น

     

 

จีน ชาวMillennials เป็นกลุ่มคนที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทจากการเติบโตของชนชั้นกลางและเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู คนกลุ่มนี้จะมองการซื้อหาเครื่องประดับว่าเป็นการแสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยจำนวนชาว Millennials มากกว่า 400 ล้านคน หรือมากกว่า 25% ของประชากร ทำให้จีนนอกจากเป็นตลาดใหญ่แล้วยังมีกำลังซื้อสูงอีกด้วย ทั้งนี้ ข้อมูลจาก De Beers ระบุว่า ยอดขายเพชร 68% ในจีนมาจากกลุ่มชาว Millennials แต่เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการซื้อเครื่องประดับทอง พบว่า มีเพียง 4% ของคนกลุ่มนี้ซื้อทางออนไลน์ ขณะที่ส่วนใหญ่ใช้ออนไลน์เพื่อค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจมาซื้อที่ร้านค้า

 

อินเดีย เป็นอีกประเทศที่กลุ่มชาว Millennials มีอัตราการเติบโตสูงโดย UN ประเมินว่า จำนวนประชากรของอินเดียจะแซงหน้าจีน ในอีก 8 ปีข้างหน้า และกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ประกอบกับรายงานจาก Organization Development and Learning Partner บ่งชี้ว่าในปี 2020 อินเดียมีกลุ่มชาว Millennials คิดเป็น 50% ของแรงงานทั่วประเทศ และในปี 2025 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 75% ของแรงงานทั่วประเทศ นอกจากนี้ ข้อมูลจาก American Express ระบุว่า 37% ของผู้ถือบัตรเป็นกลุ่มชาว Millennials ทั้งยังเป็นกลุ่มผู้ใช้จ่ายที่เติบโตสูงมาก โดย 42% ของคนกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายในอาหารหรูมื้อค่ำ 38% ใช้จ่ายในสินค้าหรู และ 35%ใช้จ่ายในเครื่องแต่งกายราคาแพง ทั้งยังส่งผลให้การใช้จ่ายในเครื่องประดับหรูเติบโตกว่า 43% จากการใช้บัตรของกลุ่มชาว Millennials

ชาว Millennials ในอินเดียถือเป็นแรงผลักดันหลักให้เศรษฐกิจของอินเดีย ด้วยความชำนาญในการใช้สื่อออนไลน์มากกว่าคนรุ่นก่อนๆ ทำให้การใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นตามลำดับ รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญในการขยายตัวของคนชั้นกลางอีกด้วย

 

 

ชาว Millennials และ Gen Z เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้โดยทั้งสอง Gen ต่างก็มีความเป็น Digital Gen กล่าวคือ ถนัดในการใช้สื่อออนไลน์ ในการค้นคว้าข้อมูล สื่อบันเทิง แม้แต่สร้างอาชีพ ดังนั้น การจับตลาดลูกค้ากลุ่มดังกล่าว จะต้องมีการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป ซึ่งจะช่วยต่อยอดและขยายฐานลูกค้าให้ธุรกิจเติบโตได้ แม้จะมีผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจก็ตาม

 


ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

[อ่าน 3,675]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการ รีแบรนด์ Microsoft Office เมื่อ “AI” เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดการดีไซน์
ทำไม JW Anderson จึงโดดเด่นในการออกแบบกระเป๋าถืออันเป็นเอกลักษณ์
สี จิ้นผิง–เผิง ลี่หยวน เปิดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำ SCO 2025 ที่เทียนจิน โชว์บทบาทเจ้าภาพผลักดันความร่วมมือภูมิภาค
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เดิมพันครั้งสุดท้าย? คว้า ‘อเล็กซานเดอร์ หวัง’ ขุนศึก AI ปั้นฝัน Superintelligence
AI ไม่ได้ฆ่า Google Search? เบื้องหลังปราการป้องกันที่แข็งแกร่งกว่าที่คิด
“มาห์เล” เร่งเครื่องนวัตกรรมยานยนต์ ลดคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีหลากหลาย – หนุนสหภาพยุโรปแก้กฎหมาย CO₂
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved