“ผมเป็นหมอก็อยากให้คนที่เดินเข้ามาในคลินิกได้รับการดูแลและหัตถการที่ได้มาตรฐาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้เข้าใช้บริการให้มากที่สุด ดังนั้นการสร้างมาตรฐานเรื่องการดูดไขมันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ มาตรฐานคือแพชชั่นหลักในการเปิด LA FERLY CLINIC ตั้งแต่วันแรก”
นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร ผู้ก่อตั้งคลินิก ลา เฟอร์ลี่
เส้นทางของ LA FERLY CLINIC ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องและเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยปัจจัยของการใช้ชีวิตในปัจจุบันที่ผู้คนมองหาวิธีการดูแลรูปร่าง และปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับโครงสร้างรูปร่างตามกรรมพันธุ์เพื่อให้ดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ
นอกจากความใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายแล้ว หลายคนจึงมองหาสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน
ดังนั้น LA FERLY CLINIC จึงเป็นหนึ่งในคลินิกที่ตอบโจทย์ผู้ที่สนใจดูแลรูปร่าง
LA FERLY CLINIC จากวันแรกสู่ความสำเร็จ
นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร หรือ หมอคิม ผู้ก่อตั้งคลินิก ลา เฟอร์ลี่ (LA FERLY CLINIC) ภายใต้ บริษัท ลา เพอร์ล่า (2020) จำกัด กล่าวว่า
หลังจากเรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปศึกษานวัตกรรมทางด้านการดูดไขมันลดสัดส่วน เติมไขมันใบหน้าและหน้าอก จากประเทศเกาหลีใต้แล้วได้กลับมาที่ไทยและเข้าทำงานในคลินิกหลายแห่ง จึงได้เรียนรู้ว่ามาตรฐานการดูดไขมันและเครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน
ทั้งนี้ตนเองมีความชอบส่วนตัวในการดูดไขมันและปรับสัดส่วนรูปร่างให้มีความสวยงานในแบบเฉพาะแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงมองว่าการดูดไขมันที่ถูกต้อง มีมาตรฐาน และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่สนใจปรับสัดส่วนให้มีความสวยงามแลดูเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัย จึงได้เริ่มต้นมองหาพื้นที่เพื่อเปิดคลินิก
อีกทั้งต้องยอมรับว่าในช่วงแรกของการเปิดคลินิกนั้น ที่มีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นในช่วงมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รุนแรง ทำให้มีการประกาศปิดพื้นที่ภายในประเทศเป็นระยะเวลา 3 เดือน
โดย LA FERLY CLINIC ได้เปิดให้บริการอีกครั้ง คือช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งผลตอบรับในช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างมีทิศทางที่ดีและเติบโต ทำให้ปลายปี 2563 มีการขยายพื้นที่คลินิก จากเดิมบริการในส่วนชั้นล่างของอาคารเท่านั้น เป็นการขยายขึ้นไปยังชั้น 2 และ 3
ส่วนบริการในช่วงแรกเริ่มจากเปิดบริการด้านผิวเป็นหลัก เช่น โปรแกรมหน้าใส โปรแกรมรักษาสิว โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น ต่อมาเมื่อคลินิกเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณภาพและความใส่ใจที่ทีมแพทย์ของคลินิกให้ความสำคัญ
ทำให้ในช่วงปี 2564 มีการขยายพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นในอาคารไปยังชั้น 4 เพื่อเปิดเป็นห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน เทียบเคียงโรงพยาบาล เพื่อรองรับการดูดไขมันที่ปลอดภัย โดยมีทีมแพทย์ที่มาร่วมงานกับทางคลินิก การดมยา หรือ วิสัญญีแพทย์ประจำที่คลินิก
สำหรับการดูดไขมันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และฐานกลุ่มผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่มาจากในตัวเมืองกรุงเทพฯ ทำให้ในปี 2565 มีการขยายสาขาเพิ่มเป็นแห่งที่ 2 ของ LA FERLY CLINIC ไปยังย่านสุทธิสารวินิจฉัย ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากเดิมสาขาแรกอยู่ที่อาคารไพศาสตร์ ถนนรังสิต-นครนายก รังสิตคลอง 2 จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้สาขาที่ 2 ให้บริการบนพื้นที่อาคารพาณิชย์ 5 ชั้น รองรับบริการเช่นเดียวกับสาขาแรก และมีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานผ่านการตรวจสอบ และมีใบอนุญาตรองรับถูกต้องเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ
ทีมแพทย์ มาตรฐาน LA FERLY CLINIC
นายแพทย์กิตติธัช กล่าวต่อว่า สำหรับแกนหลักในการทำธุรกิจของ LA FERLY CLINIC คือ มาตรฐานการบริการที่ทุกสาขาต้องมีแบบเดียวกัน เพื่อคุณภาพและปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ
ดังนั้นทีมแพทย์ของคลินิกจะไม่มีแพทย์พาร์ตไทม์ แต่ทุกคนต้องเป็นแพทย์ประจำคลินิกเท่านั้น และที่สำคัญแพทย์ของ LA FERLY CLINIC ผ่านการอบรมและฝึกหัดในการทำหัตถการต่างๆ ของคลินิก โดยมีหมอคิมเป็นผู้สอนและถ่ายทอดความรู้ เพื่อให้การดูแลและทำหัตถการด้านการดูดไขมันที่มีมาตรฐานที่ถูกต้องและปลอดภัย
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมั่นใจได้ว่า การเดินเข้ามาที่คลินิกจะได้พบกับทีมแพทย์มาตรฐานเดียวกันการดูดไขมันทุกสาขา เนื่องจากจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจทำธุรกิจคลินิกเสริมความงามคือความต้องการสร้างมาตรฐานการดูดไขมันที่ถูกต้องและปลอดภัยให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้
ก้าวต่อไปสู่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์
นพ.กิตติธัช กล่าวต่อว่า LA FERLY CLINIC อยู่ภายใต้บริษัท ลา เพอร์ล่า (2020) จำกัด ซึ่งมีแผนธุรกิจในระยะ 5 ปี ในการขยายคลินิกเพิ่มเป็น 10 สาขา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
โดยมองว่ากลุ่มประเทศ CLMV หรือ กัมพูชา เมียนมาร์ ลาว และเวียดนาม เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีกำลังซื้อและมีอัตราของการเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งคลินิกเสริมความงามของไทยเป็นที่ยอมรับด้านมาตรฐานคุณภาพ และความปลอดภัย ซึ่งเป้าหมายหลักของแผนธุรกิจ คือการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี
ทั้งนี้มีแผนธุรกิจในการขยายสาขาภายใน 1 ปีต่อจากนี้ คือจะมีการเปิดเพิ่มอีก 1-2 สาขา ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับกลุ่มผู้เข้าใช้บริการชาวต่างชาติ
จากเดิมปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ของคลินิกอยู่ในช่วงอายุ 35-50 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจเรื่องรูปร่างการดูดไขมันส่วนเกิน และการปรับสัดส่วนให้สมวัย
โดยในส่วนนี้มีผู้เข้าใช้บริการที่เป็นชาวต่างชาติด้วยบางส่วน โดยเป็นการบอกต่อเรื่องคุณภาพมาตรฐานการให้บริการ
สำหรับกลยุทธ์การตลาดนั้น คลินิกเน้นให้ความรู้และสร้างความเข้าใจในการปรับสัดส่วนรูปร่างอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการดูดไขมันส่วนเกินและนำไขมันดังกล่าวเติมในบางส่วนของร่างกาย
ซึ่งนำเสนอความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม เช่น Website, facebook, Youtube และTikTok เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่สนใจได้อย่างหลากหลาย รวมถึงช่องทางออฟไลน์ ที่เข้าถึงตัวบุคคลแบบเฉพาะกลุ่ม เช่น การจัดกิจกรรมโปรโมชั่นร่วมกับฟิตเนส เป็นต้น
นอกจากกิจกรรมที่สนับสนุนการทำการตลาดแล้ว LA FERLY CLINIC ยังคงให้ความสำคัญกับการให้ เพราะมองว่า ‘ยิ่งให้ ยิ่งได้’
โดยที่ผ่านมามีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น การมอบเงินสนับสนุนให้กับโรงเรียนอนุบาลในการจัดหาพัดลมขนาดใหญ่เพื่อติดตั้งในหอประชุมเพื่อทำกิจกรรม เป็นต้น