ศุภลักษณ์ อัมพุช กับ New Era ของกลุ่มเดอะมอลล์ ที่เป็นมากกว่าแค่ช้อปปิ้ง แต่คือการสร้างย่านการค้า
15 Dec 2023

 

ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก ประกอบกับยุทธศาสตร์ในการปักหมุดย่านการค้าสำคัญ และวางเป้าหมายในการ พัฒนาย่านการค้า ไม่ใช่เพียงพัฒนาโครงการศูนย์การค้าของกลุ่มเดอะมอลล์

 

ทำให้การออกมาประกาศถึงแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของ ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ถูกให้ความสนใจไม่น้อย ถึงทิศทางที่กำลังจะมุ่งไปภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป

ศุภลักษณ์ ประกาศไว้อย่างชัดเจนในงานแถลงข่าวเปิดตัว ศูนย์การค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า กลุ่มเดอะมอลล์ จะไม่ทำธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบเดิมๆ หรือแข่งขันในตลาดเดิมๆ อีกต่อไป แต่จะเป็นการมุ่งไปสู่สนามแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งผู้บริหารเดอะมอลล์ เปรียบเทียบไว้อย่างน่าฟังว่า ถ้าจะแข่งขัน ต้องลงไปแข่งในสนามที่เป็นฟอร์มูล่า วัน เท่านั้น

นั่นหมายถึงว่า ตามแผน 5 ปีของกลุ่มเดอะมอลล์ จะไม่ใช่เป็นแค่เพียงการสร้างศูนย์การค้า หรือช้อปปิ้งมอลล์ในรูปแบบเดิมๆ แต่จะเป็นการสร้างย่านธุรกิจการค้าให้กับกรุงเทพฯ เพื่อทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทย ก้าวไปเป็นหมุดหมายสำคัญในเรื่องของการท่องเที่ยว ที่มีเรื่องของช้อปปิ้งเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ

เป็นการวางยุทธศาสตร์ที่สอดรับนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโดยภาพรวม เช่นเดียวกับเมืองที่เป็นย่านการค้าสำคัญในโลก ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งจากระบบรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมสำคัญภายในกรุงเทพฯ ที่เข้ามาช่วยยกระดับให้ทุกอย่างเป็นเรื่องสะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงการก้าวไปเป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่กลุ่มเดอะมอลล์ให้น้ำหนักกับการขับเคลื่อนธุรกิจในรูปแบบที่ว่านี้ค่อนข้างมาก

 

 

ศุภลักษณ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์การบริหารธุรกิจรีเทลมากกว่า 4 ทศวรรษ กลุ่มเดอะมอลล์ได้สร้างย่านการค้าจนประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ในย่านรามคำแหง ท่าพระ และงามวงศ์วาน และยิ่งใหญ่ใน 2 มุมเมือง เมื่อปี 2537 ในย่านบางกะปิ สำหรับโครงการอภิมหาอาณาจักรศูนย์การค้าครบวงจร เดอะมอลล์  บางกะปิ และในย่านบางแค เพชรเกษม สำหรับเดอะมอลล์ บางแค

ต่อเนื่องกับโครงการ ลักซ์ชัวรีมอลล์แห่งแรกในประเทศไทยในปี 2540 กับโครงการศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และปี 2558 กับโครงการศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการสำคัญในย่านกลางเมือง (Midtown) ที่ส่งให้เกิดการขยายตัวของสังคม เศรษฐกิจ บริเวณใจกลางถนนสุขุมวิท รวมถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาศูนย์การค้าสยามพารากอน ในย่านกลางเมืองให้เป็นปรากฏการณ์ Jewel of Asia - Retail & Entertainment Phenomenon

 


“เรามีความพร้อมในการ พัฒนาย่านการค้าให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น สอดรับกับแผนพัฒนา การขยายตัวของเมือง ผ่าน 3 โครงการศูนย์การค้า ใน 3 มุมเมืองที่มีเอกลักษณ์ มีลักษณะเฉพาะและ มีความโดดเด่น ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 3 โครงการกว่า 50,000 ล้านบาท โดยโครงการ ดิ เอ็มสเฟียร์ ใจกลางย่านการค้าถนนสุขุมวิท จะเป็นความเร้าใจใหม่ของกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยหลับใหล หรือ SLEEPLESS METROPOLIS) ที่คัดสรรและรวบรวมศิลปะแห่งการใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์มาไว้ในที่เดียว (Art of Dining, Art of Fashion, Art of Creative) รวมถึงเป็น Entertainment Hub of Asia

และจะสร้างปรากฏการณ์ BANGKOK CALLING THE WORLD พร้อมอภิมหาปรากฏการณ์เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท ฉลองร่วมกันทั้ง เอ็มดิสทริค ที่เป็นย่านธุรกิจการค้าสำคัญที่มี 3 ศูนย์การค้าระดับลักซ์ชัวรีของกลุ่มเดอะมอลล์เป็นตัวชูโรง”


 

ศุภลักษณ์ ย้อนภาพให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างย่านการค้าบนตอนกลางของถนนสุขุมวิทให้ฟังว่า การเกิดขึ้นของศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมเมื่อปี 2540 ถือเป็นการสวนกระแสตลาดค้าปลีกของบ้านเราอย่างมาก เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ที่ไม่มีใครกล้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่

ทำให้กลายเป็นโอกาสของกลุ่มเดอะมอลล์ที่กล้าเสี่ยงเปิดศูนย์การค้าที่เป็นศูนย์รวมลักซ์ชัวรีแบรนด์แห่งแรกของประเทศขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องโชคดีที่ช่วงเวลานั้น คนไทยไม่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งสินค้าลักซ์ชัวรีแบรนด์ในต่างประเทศ

ขณะที่บรรดาลักซ์ชัวรีแบรนด์ชื่อดังก็มีสต๊อกสินค้าอยู่ในมือจำนวนมาก จึงเข้ามาร่วมกันทำตลาดที่ในที่สุดสามารถแจ้งเกิด ดิเอ็มโพเรียมได้สำเร็จอย่างงดงาม

 

 

ส่วนในครั้งนี้กับการเปิดตัว ดิ เอ็มสเฟียร์ อย่างเป็นทางการนั้น ศุภลักษณ์ มองว่า จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เข้ามาทำให้ย่านธุรกิจการค้าบนตอนกลางของถนนสุขุมวิทมีความสมบูรณ์แบบ เพราะนอกจากการช้อปปิ้งแล้ว ดิ เอ็มสเฟียร์ ที่เน้นการเป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์หรือแหล่งแฮงก์เอาต์สำคัญของกรุงเทพฯ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้กับการใช้ชีวิตทั้งของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ขณะที่ทั้ง 3 ศูนย์การค้าจะมี Positioning ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย ดิ เอ็มโพเรียมจะเป็น LUXURY INSTITUTE หรือ ความเป็นที่สุดแห่งความหรูหรา และ ดิ เอ็มควอเทียร์ จะเป็น CUTTING EDGE LUXURY & HYBRID หรือความลักซ์ชัวรีที่เหนือระดับ มีความเป็นเอกลักษณ์ของไลฟ์สไตล์ ในขณะที่ ดิ เอ็มสเฟียร์ เป็น ฟิวเจอร์ รีเทล (Future Retail)

และเมื่อรวม 3 ศูนย์การค้าเข้าด้วยกัน เอ็มดิสทริค จะเป็นศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบ ที่สามารถขับเคลื่อนถนนสุขุมวิทให้เป็นย่านการค้าสำคัญ ดังเช่นย่านการค้าสำคัญในหลายประเทศ เป็นสิ่งใหม่ในอุตสาหกรรมรีเทลที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

 


เอ็มดิสทริค จะเป็น DISTRICT OF HAPPENING โดยมีร้านอาหารที่ปิดดึกหลังเที่ยงคืน บางร้านเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นศูนย์รวมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตอบโจทย์แนวคิด SLEEPLESS METROPOLIS หรือ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล

ผสานกับศักยภาพของเอ็นเตอร์เทนเมนต์ระดับเวิลด์คลาส ได้แก่ UOB LIVE ซึ่งเป็น WORLD-CLASS ARENA ความจุ 6,000 ที่นั่ง รองรับการจัดคอนเสิร์ต กิจกรรมระดับโลก สนับสนุนแนวคิดการสร้างศูนย์กลางเอ็นเตอร์เทนเมนต์ในระดับภูมิภาคอาเซียน

ตลอดจนการเป็นสถานที่โชว์เคสของสุดยอดนวัตกรรมยนตรกรรมที่เป็น INNOVATIVE ระดับโลก อาทิ Rolls-Royce, BMW รวมถึงความสมบูรณ์แบบของ โชว์รูมยนตรกรรม INNOVATIVE ชั้นนำอีกมากมาย อาทิ แลนด์โรเวอร์, ปอร์เช่, วอลโว่, ฮุนได และ AION แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายเป็นอันดับ 3 ในประเทศจีน เป็นต้น”


 

ไม่เพียงแค่การสร้างย่านการค้าที่บนถนนสุขุมวิทตอนกลางเท่านั้น กลุ่มเดอะมอลล์ ยังมีการลงทุนทำโครงการขนาดใหญ่อย่าง Bangkok Mall บนถนนสุขุมวิทตอนบน โดยเป็นอีกโครงการที่มีโลเกชั่นค่อนข้างดี เพราะอยู่ใกล้แยกบางนา ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของรถไฟฟ้า 2 สาย โดยจะมีการทำโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ที่เชื่อมโยงไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญอีกแห่งของกรุงเทพฯ

โครงการนี้เป็นโครงการค่อนข้างใหญ่ ในส่วนของช้อปปิ้งมอลล์จะมีพื้นที่ถึง 1 ล้านตารางเมตร อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยจะมีการเติมเต็มแม่เหล็กใหญ่ๆ เข้าไป อาทิ การมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ เพื่อสร้างให้เป็นอีกแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ที่จะเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยในพื้นที่ใกล้เคียง

 

แม้จะถูกมองว่า ย่านบางนา เป็นพื้นที่ ‘เรดโซน’ ที่มีการแข่งขันของศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล บางนา, เมกา บางนา ของกลุ่มเซ็นทรัล หรือศูนย์การค้าในย่านใกล้เคียงบนถนนศรีนครินทร์ อย่างซีคอน สแควร์ และพาราไดซ์ พาร์ค

แต่ศุภลักษณ์ ก็มองว่า โลเกชั่นย่านนี้ จะเป็นอีกย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของถนนสุขุมวิทตอนบน ที่ไม่เพียงจะรองรับกำลังซื้อของคนในย่านนั้น แต่ยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาใช้เวลาในย่านการค้าแห่งนี้ ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศ

 

ขณะที่ โครงการเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และบางแค ที่รีโนเวทเสร็จ และเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเร็วๆ นี้ จะถูกปั้นให้เป็น มหานครแห่งใหม่ ที่เป็นศูนย์กลางความมหัศจรรย์แห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก (THE MALL LIFESTORE - NEW HYBRID RETAIL FOR URBAN LIVING) บนทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสำคัญ

โดยทั้ง 2 โครงการ ที่มีพื้นที่รวมกว่า 700,000 ตารางเมตร (บางกะปิ 350,000 ตารางเมตร, บางแค 350,000 ตารางเมตร) จะช่วยสร้างปรากฏการณ์ของอาณาจักรศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร เพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ

 

เป็นอีกการเติมเต็ม คอนเซปต์การสร้างย่านธุรกิจการค้าของกลุ่มเดอะมอลล์ ที่จะเข้ามาเป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนธุรกิจตามแผน 5 ปีที่วางไว้ ซึ่งทั้งหมดนั้น จะเป็น New Era of The Mall Group อย่างแท้จริง

[อ่าน 27,151]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ ‘เลิศรินิญฒ์ ศรีสุคนธ์’ กับเบื้องหลังการปั้น ‘Cafe Chilli’ ให้เป็นแบรนด์เรือธง ของ สะไปซ์ ออฟ เอเซีย
ทีเด็ด POP MART เจาะตลาดไทยอย่างไร ให้มัดใจผู้บริโภคอยู่หมัด
‘เดอะคลีนิกค์’ เผยผลงานโดดเด่นปี 66 โกยรายได้กว่า 2.3 พันล้าน เดินหน้าบุกตลาดความงาม
“เพราะชีวิตคือบททดสอบ” เปิดเรื่องราวชีวิตหญิงแกร่ง CHRO แห่งทรู คอร์ปอเรชั่น
‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ กับเบื้องหลังการปั้น ‘บิสโตร เอเชีย’ ให้มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 70%
Future Food เทรนด์อาหารแห่งอนาคตเพื่อโลกที่ยั่งยืน กับมุมมองของไทยยูเนี่ยน
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved