ไพโรจน์ วัฒนวโรดม เสริมแกร่ง ESTAR สร้างยอดขายครึ่งปีแรกแตะพันล้าน
25 Sep 2024

 

เรียกได้ว่ายังคงโชว์ฟอร์มได้สมกับเป็นนักอสังหาฯ รุ่นเก๋าจริงๆ สำหรับ ‘ไพโรจน์ วัฒนวโรดม’ หรือ ‘พี่แจ้’ ของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ที่หลังจากเข้ามาเสริมทัพให้กับ บริษัท อีสเทอร์นสตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ก็สร้างผลงานได้อย่างน่าสนใจ เพราะแค่ครึ่งปีแรกของปี 2567 ก็กวาดยอดขายไปแล้วระดับพันล้าน

 

ไพโรจน์ ถือเป็นนักอสังหาฯ มืออาชีพที่คร่ำหวอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาหลายทศวรรษ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ คอนฟิเด้นซ์ และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ โดยเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารที่ปลุกปั้นแบรนด์ ‘เดอะ ทรัสต์’ เพื่อลุยตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบระดับกลางล่าง

อีกทั้งยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการทำตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดให้กับกลุ่มคิวเฮ้าส์มายาวนาน อีกทั้งยังเป็นอดีตผู้บริหาร บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และยังเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท แมทช์ไทม์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรอีกด้วย

 

เดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา ไพโรจน์ หวนกลับมารับตำแหน่งในบริษัทมหาชนอีกครั้ง กับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR กับภารกิจสำคัญคือสร้างความสม่ำเสมอในการรับรู้รายได้ของบริษัท และสร้างผลกำไรสุทธิ (net profit) ให้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ขึ้นไปแตะระดับที่ 3,000 - 5,000 ล้านบาท ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า จากเดิมที่อยู่ราวๆ 2,000 ล้านบาทต่อปี

โดยไพโรจน์ได้วางกลยุทธ์ระยะ 3 ปี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ESTAR ไว้ดังนี้ ปรับโครงสร้างพอร์ตสินค้า โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโครงการแนวราบมากขึ้น จากเดิมที่สัดส่วนการลงทุนและรายได้จากคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 80% และมีรายได้จากที่อยู่อาศัยแนวราบ 20% โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะเพิ่มสัดส่วนโครงการแนวราบขึ้นเป็น 50% เพื่ออุดช่องโหว่และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

ปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ แยกหน่วยธุรกิจ (BU) เป็น 3 หน่วย คือ หน่วยธุรกิจอสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล, หน่วยธุรกิจอสังหาฯ จ.ระยอง และ หน่วยธุรกิจส่วนกลางดูแลด้านต้นทุนการเงินและการออกแบบดีไซน์

ปรับการบริหารจัดการต้นทุนและการก่อสร้าง รวบรวมข้อมูลการใช้วัสดุและแผนงานก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลาง เพื่อสั่งซื้อวัสดุร่วมกัน

เพื่อตอกย้ำฝีไม้ลายมือของไพโรจน์ ล่าสุด ESTAR ได้ออกมาเผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 โดยคว้ายอดขายแตะระดับพันล้านไปได้ แม้ตลาดโดยรวมยังคงทรงตัว

 

ซึ่งไพโรจน์ได้เปิดเผยว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมานั้นอยู่ในช่วงทรงๆ และถึงจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากภาครัฐ เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนฯ และค่าจดจำนอง โดยขยายเพดานไปจนถึงบ้านระดับราคา 7 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นให้ตลาดกลับมาร้อนแรงได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยเรื่องความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ยังไม่ผ่อนคลาย ซ้ำสถานการณ์ทางการเมืองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และครม.ชุดใหม่ ที่เกิดขึ้นล่าสุดอาจจะมีผลในเชิงจิตวิทยาต่อผู้ซื้อ แต่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ก็ไม่ได้ปรับลดการพัฒนาโครงการแต่อย่างใด โดยเฉพาะ ESTAR 

 



ไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR

 

โดย ESTAR ได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการขายอย่างทันท่วงที ทันกับสถานการณ์ตลอดเวลา เช่น การจัดโปรกระตุ้นการตัดสินใจซื้อโดยไม่รอนโยบายภาครัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น ให้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนถูก 3 ปี โดยทำแคมเปญร่วมกับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถผ่อนบ้านใน 3 ปีแรกได้แบบไม่หนักมาก รวมถึงโปรฯ ลดภาระให้กับลูกค้า เช่น ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอนฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่กำลังไม่มั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ ให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 

สำหรับทิศทางอสังหาฯ ในปี 2567 นั้น ไพโรจน์เชื่อว่ายังมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง โดยปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อภาคอสังหาฯ ให้ดีขึ้นได้ หลักๆ ควรจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อบ้านจากทางภาครัฐ รวมถึงมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% ยังคงเป็นแรงส่งที่ดีที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์คึกคักอยู่บ้าง 

 

อย่างไรก็ตาม ESTAR ยังคงเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยแผนปี 2567 ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ ในช่วง Q1-Q3/2567 เป็นต้นไป มูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท แบ่งออกเป็น ทำเลโซน บ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

  • โครงการบ้านเดี่ยว VELANA HYDE อู่ตะเภา-บ้านฉาง ระยอง มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท
  • โครงการบ้านเดี่ยว GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง จำนวน 6 หลัง มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท

และในพื้นที่กรุงเทพ 1 โครงการ คือ

  • โครงการ ESTON ลาดกระบัง- สุวรรณภูมิ ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป

พร้อมดันโครงการในมือรวมทั้งสิ้น 11 โครงการ ในปีนี้ 

 

 

ส่วนแนวทางการพัฒนาโครงการในปีนี้ บริษัทยังคงประเมินตามทิศทางภาพรวมของตลาดล่วงหน้า โดยฝ่าหลายปัจจัย เช่น หันมาจับกลุ่มตลาดกลาง-บน มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มนี้ยังมีดีมานด์ต่อเนื่องและยังมีกำลังซื้อได้แม้อัตราดอกเบี้ยจะขยับตัว 

นอกจากนี้ยังจับกลุ่มชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจีน ไต้หวัน รัสเซีย และพม่า ที่กำลังเผชิญปัญหาความขัดแย้งและความมั่นคงภายในประเทศ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทย เพราะปัจจัยด้านราคา ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ของไทยราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทำให้กลุ่มชาวต่างชาติยังคงทยอยเข้ามาซื้อเพื่ออยู่อาศัย ลงทุนปล่อยเช่า และแม้แต่เข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการฯ สอดรับกับ 3 โครงการใหม่ที่เตรียมเปิดในปีนี้ของ ESTAR ได้แก่ 

โครงการ VELANA HYDE อู่ตะเภา-บ้านฉาง ระยอง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 128 หลัง มูลค่าโครงการประมาณ 800 ล้านบาท เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับ Mid-High Level ซึ่งเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการ VELANA AMODA ที่ผ่านมา ในทำเลเดียวกัน 

โครงการ GRAND VELANA POOL VILLA บ้านฉาง ระยอง จำนวน 6 หลัง มูลค่าโครงการกว่า 120 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 15 ล้านบาท โดยวางคอนเซปต์ บ้านหรูสไตล์รีสอร์ทใจกลางสนามกอล์ฟ ตอบโจทย์ลูกค้าระดับผู้บริหารที่ทำงานบริษัทในนิคมฯ มาบตาพุด กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าของกิจการ รวมถึงลูกค้าในบริเวณบ้านฉาง ซึ่งถือว่ามีกำลังซื้อสูง และโอกาสรีเจ็กต์เรต (Reject Rate) อยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก

โครงการ ESTON ลาดกระบัง- สุวรรณภูมิ โครงการทาวน์โฮม 2-3 ชั้น จำนวน 160 ยูนิต คอนเซปต์ British Georgian กลิ่นอายสไตล์อังกฤษ บนทำเลศักยภาพใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.29-5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งทาง ESTAR ตั้งใจพัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า ทั้งพนักงานที่ทำงานในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ นิคมอุตสากรรมลาดกระบัง พระราม 9 และศรีนครินทร์

 

 

โดยไพโรจน์ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า

“ผมมองว่าแม้ในตอนนี้ประเทศไทยอยู่บนความอ่อนไหวทางการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ประชาชนน่าจะปรับตัวและเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพราะสถานการณ์ของประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่งผลในเชิงจิตวิทยาระยะสั้นเท่านั้น อีกทั้งเชื่อว่าผู้ประกอบการภาคอสังหาฯ หลายๆ ค่าย ก็ต่างออกมาผนึกกำลังช่วยผลักดันให้ตลาดไปต่อ ถือว่าเป็นผลดีที่เศรษฐกิจจะยังทรงตัวได้จนจบปี อย่างไรก็ดี ในส่วนของผลการดำเนินงานของ ESTAR 

สำหรับครึ่งปีแรกนี้ ถ้าเทียบกับสถานการณ์ปัจจัยลบต่างๆ ที่ผ่านมา เราสามารถทำผลงานได้ดี โดยตอนนี้ยอดขายบริษัทฯ แตะถึงพันล้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งภาพรวมในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายภาพรวมอยู่ที่ กว่า 2,000 ล้านบาท และเป้าหมายรับรู้รายได้อยู่ที่กว่า 1,700 ล้านบาท ถือว่าเราอยู่ใกล้เส้นชัยมากขึ้นและคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าอย่างแน่นอน” 

[อ่าน 3,014]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเส้นทางแม่ทัพหญิงการเงินทรู เจ้าของรางวัลผู้นำสตรีดีเด่นด้านการเงินระดับโลก
นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย แนะ 5 แนวทางรับมือโลกการตลาดที่เปลี่ยนไป
กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเกม ใช้เซ็นทรัล ภูเก็ต - เซ็นทรัล ชิดลม รุกตลาดสินค้าลักซ์ชัวรี่เต็มกำลัง
“บราเดอร์” เผยกลยุทธ์บริการมัดใจลูกค้า ด้วยหลัก CS
เปิดใจ ‘เลิศรินิญฒ์ ศรีสุคนธ์’ กับเบื้องหลังการปั้น ‘Cafe Chilli’ ให้เป็นแบรนด์เรือธง ของ สะไปซ์ ออฟ เอเซีย
ทีเด็ด POP MART เจาะตลาดไทยอย่างไร ให้มัดใจผู้บริโภคอยู่หมัด
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved