ในยุค 4.0 ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเดินออกมาจากงานประจำแล้วก้าวไปสู่การเป็นสตาร์ทอัพได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีความคล่องตัวในการที่จะขยับขยายกิจการให้เดินหน้าไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระ หากแต่ความท้าทายของเหล่าผู้ประกอบการ ‘รายเล็ก’ คือขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่ทำให้ไม่สามารถเข้าไปแข่งขันกับบริษัทระดับใหญ่ได้มากนัก ด้วยเงื่อนไขเกี่ยวกับความพร้อมและความเชื่อมั่นของผู้ว่าจ้าง ซึ่งนี่คืออุปสรรคสำคัญที่สตาร์ทอัพในทุกแวดวงต้องเคยเผชิญ ไม่เว้นแม้แต่ในวงการ ‘อินทีเรีย ดีไซน์’ ที่รายเล็กแทบจะไม่มีโอกาสในการเข้าถึงโครงการขนาดใหญ่หรืองานในระดับสากล
สมบัติ งามเฉลิมศักดิ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PAPERSPACE (เปเปอร์สเปซ) บริษัท Interior DesignStartup สัญชาติไทยรายเดียวที่มีโอกาสออกแบบสำนักงานของบริษัทระดับโลก อย่าง Facebook และ Google มาแล้วในหลายประเทศ กล่าวว่า “ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมอินทีเรียดีไซน์ในเมืองไทย โดยเฉพาะดีไซน์สตูดิโอรายเล็กๆ ล้วนแต่มีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องความน่าเชื่อถือ ทำให้ขาดโอกาสที่จะได้รับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราเองเคยประสบมาก่อนตั้งแต่สมัยเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เราจึงได้นำ Pain point เหล่านั้นมาออกแบบแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ในชื่อ ‘PAPERSPACE’ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ก่อนจะขยายสำนักงานไปยังสิงคโปร์ โดยร่วมทุนกับกลุ่มผู้ประกอบการที่สิงคโปร์ ต่อด้วยฟิลิปปินส์ และตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายไปยังอินเดีย ซึ่งทำให้เรากลายเป็นองค์กรที่มีเครือข่ายในระดับภูมิภาค (Regional firm) และมีระบบการทำงานที่มีมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์มนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทอินทีเรียดีไซน์ หรือกลุ่มสตูดิโอดีไซน์ขนาดเล็ก-ขนาดกลาง ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้สามารถเข้าถึงงานโครงการขนาดใหญ่ได้”
สำหรับรูปแบบของการดำเนินธุรกิจของ ‘PAPERSPACE’ จะเริ่มจากการเชิญดีไซน์สตูดิโอขนาดเล็กและขนาดกลางเข้ามาเป็นสมาชิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกในเครือข่ายอยู่ราว 20 บริษัท โดยแต่ละรายจะมีความเชี่ยวชาญการออกแบบหลายด้าน ตั้งแต่สำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร โชว์รูม บ้านพักอาศัย ฯลฯ ถือเป็นจุดแข็งขององค์กรที่สามารถรองรับความต้องการลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ จากนั้นทาง PAPERSPACE จะเป็นผู้จัดหางานออกแบบตกแต่งภายในต่างๆ และประสานงานไปยังบริษัทสมาชิกที่เหมาะกับงานนั้นๆ พร้อมให้คำปรึกษากับลูกค้าและบริษัทสมาชิกอย่างใกล้ชิด โดยใช้ Know-how และประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานออกแบบให้กับองค์กรระดับโลกมาปรับใช้ในแต่ละโครงการ ซึ่งการทำงานทุกโครงการนั้นบริษัทสมาชิกจะสามารถแสดงตัวตนได้ และได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ออกแบบ อาทิ โครงการออกแบบ Co-creation Space ของ SC Asset โดย PAPERSPACE + Time & Architecture + Design Dept โครงการออกแบบพื้นที่สำนักงาน สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดย PAPERSPACE + SOD + IDEE Architects เป็นต้น
"บางคนอาจจะมองว่าเราเป็นนายหน้า หรือเป็นมาร์เก็ตเพลสที่รวบรวมบริษัทออกแบบหลายๆ แห่งมาอยู่ด้วยกันแล้วกินค่าหัวคิว แต่เราไม่ใช่ สิ่งที่เราทำอยู่ในมุมมองของลูกค้าอาจจะเข้าใจยากหน่อย บางคนไม่เข้าใจว่าเราคืออะไร เราทำอะไรอยู่ ซึ่งถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ คือ PAPERSPACE จะเข้าไปบริหารจัดการโครงการ เราเป็นคนคอนโทรลงานทั้งหมด ทั้งการติดต่อประสานงาน การวางแผนการตลาด การทำสัญญา เอกสาร เรื่องกฎหมาย ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือ Pain point ของสตูดิโอขนาดเล็ก เพราะบางคนจะคิดแค่เรื่องของการออกแบบอย่างเดียว ไม่อยากมาวุ่นวายในส่วนอื่น เราก็เข้ามาทำในส่วนนี้แทน ซึ่งนั่นหมายความว่ารายได้ของเราก็จะมาจาก Management Fee” สมบัติ อธิบาย
อย่างไรก็ตาม PAPERSPACE ยังคงมองครอบคลุมไปถึงระบบนิเวศของอุตสาหกรรมอินทีเรียดีไซน์ในเมืองไทย ที่ยังคงขาดปัจจัยส่งเสริมอีกหลายด้าน โดยเฉพาะพื้นที่ที่นักออกแบบรายเล็กจะสามารถเข้ามาทำงานหรือเข้ามาแชร์ไอเดียได้อย่างอิสระ นี่จึงเป็นที่มาของ ‘PAPERWORK’ ซึ่งเป็น Co-working Space ที่ตอบโจทย์การทำงานของนักออกแบบได้อย่างครบวงจร
ชนิดาภา มาประณีต หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PAPERSPACE ได้ให้ข้อมูลเสริมว่า “อีกหนึ่งในข้อจำกัดของสตูดิโอดีไซน์ขนาดเล็กคือเรื่องของสถานที่ทำงาน ซึ่งบางรายยังไม่มีความพร้อมในการลงทุนสร้างสำนักงานของตัวเอง พวกเขาต้องการเพียงสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงานหรือประชุมได้เท่านั้น ซึ่งรูปแบบให้บริการของ PAPERWORK ในประเทศไทย คือ มีพื้นที่สำหรับการนั่งทำงานทั้งแบบ Co-working ห้องส่วนตัว Private office ห้องประชุมขนาด 12 คน, 8 คน บริการอินเทอร์เน็ตแบบ Wi-Fi เครื่องถ่ายเอกสาร พริ้นท์เตอร์ พื้นที่ส่วนกลาง Material library แพนทรี่ ปัจจุบันนี้เปิดดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว โดยผู้ใช้บริการส่วนใหญ่นั้นเป็นคนรุ่นใหม่ที่สามารถทำงานที่ใดก็ได้ ฟรีแลนซ์ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีสาขาทั้งในสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยหลักการคือจะมี PAPERWORK ในทุกที่ ที่มี PAPERSPACE”
ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มธุรกิจอีกส่วนหนึ่งของ PAPERSPACE คือ ‘PAPERCLOUD’ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยตอบโจทย์การทำงานในยุค 4.0 ที่ทุกสิ่งจะถูกหยิบยกไปไว้ในโลกดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้นักออกแบบและผู้ว่าจ้างสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์
ทรงกิต ขอถาวรวงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง PAPERSPACE กล่าวว่า “PAPERCLOUD จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือการบริหารงานที่สำคัญ ที่สมาชิกทุกคนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ทุกที่เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือการอัพเดทความคืบหน้าของการทำงาน และทาง PAPERSPACE ก็จะสามารถติดตามความต่อเนื่องของโครงการต่างๆ ผ่านตารางเวลาการทำงานใน PAPERCLOUD ขณะที่ลูกค้าเองก็สามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ผ่านช่องทางนี้เช่นกัน ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มการทำงานที่สะดวก เราสามารถมีศูนย์กลางการทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัลให้กับวงการออกแบบตกแต่งภายในของเมืองไทย โดยขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาระบบให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงของนักออกแบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคตเรายังมีแผนจะขยายฐานผู้ใช้ไปยังสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยที่มีคณะอินทีเรียดีไซน์ด้วยเช่นกัน”
ทั้งนี้ PAPERSPACE ได้เข้าไปดูแลงานออกแบบพื้นที่สำนักงานให้กับองค์กรชื่อดังระดับโลกมาแล้วในหลายประเทศ ได้แก่ Facebook ที่นิวเดลี ประเทศอินเดีย, มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย, Google ที่เมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย, กรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนองค์กรในประเทศไทย อาทิ SC ASSET, สถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (TDRI), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และเงินติดล้อ
ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีโครงการดำเนินงานไปแล้วและอยู่ระหว่างการส่งมอบงานรวมแล้วว่า 40 โครงการ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 1 ล้านตารางเมตร หรือคิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 15,000 ล้านบาท