สายลม แสงแดด น้ำใส และหาดทราย คือมนต์เสน่ห์แห่งทะเลแดนใต้ของประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังดึงดูดให้คนจากทั่วทุกมุมโลกต้องอยากมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต เพราะประเทศไทยต่างเต็มไปด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่ ที่คงไว้ด้วยธรรมชาติที่น่าหลงใหล ประกอบกับแหล่งที่พักและอาหารการกินที่มีอยู่ให้เลือกอย่างเนืองแน่น
อย่างไรเสีย ในบรรดาเกาะแห่งแดนใต้ที่มีลิสต์เป็นอันดับหนึ่งในใจของนักท่องเที่ยวนั้น ต้องมีชื่อ ‘เกาะสมุย’ อยู่ในความคิดไม่มากก็น้อย เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบาย มีสายการบินเปิดเส้นทางบินมาสุราษฎร์ธานีมากขึ้น และจากสนามบินสุราษฎร์ธานีสามารถต่อรถและเรือไปยังเกาะสมุยได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกัน เมื่อได้เข้ามาในตัวเกาะแล้ว ก็จะพบกับธุรกิจที่พักโรงแรมและรีสอร์ทมากมายที่ยังคงเปิดให้บริการอย่างคึกคัก คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีการคาดการณ์อัตราการเข้าใช้บริการห้องพักในเกาะสมุยเฉลี่ยมากกว่า 80% ต่อปี จากนักท่องเที่ยวยุโรป เอเชีย และคนไทย และอาจจะมากยิ่งขึ้นเมื่อการท่องเที่ยวในภูเก็ตที่ถือเป็นคู่แข่งหลักเริ่มซบเซา
อย่างไรก็ดี ในบรรดาที่พักในสมุยนั้น มีอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ตั้งตระหง่านมากว่า 11 ปี และเปรียบเสมือนกับ ‘ไข่มุก’ แห่งสมุย ในชื่อ ‘ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท’ รีสอร์ทระดับ 5 ดาวที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างจาก ‘ชลลดา สุนทรวสุ’ ผู้บริหารของรีสอร์ทที่สามารถยึดครองใจนักท่องเที่ยวให้เลือกปักหมุดที่รีสอร์ทนี้มาตลอด 10 กว่าปี อะไรคือหัวใจหลักที่ทำให้ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท สร้างความสำเร็จได้ในตลาดที่พักอาศัยบนเกาะสมุยที่มีคู่แข่งมากมาย หญิงเก่งผู้นี้จะมาไขคำตอบ
Q: แม้จะผ่านมาถึง 11 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเสน่ห์ของ ‘ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท’ ยังคงน่าหลงใหลอยู่เหมือนเดิม เหตุผลมาจากอะไร
A: พื้นฐานเดิมของรีสอร์ทคือการอยู่ภายใต้ธรรมชาติที่ร่มรื่น โดยสร้างขึ้นภายใต้คอนเซปต์ ‘Back to the Nature’ ทำให้ใครก็ตามที่เข้ามาพักผ่อนที่นี่รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติซึ่งมีทั้งต้นไม้ ท้องฟ้า และนํ้าทะเลสีคราม อยู่รอบตัวขณะเดียวกันการออกแบบของเราก็มอบวิวอันสวยงามแก่ผู้มาพักในทุกๆ โซน ไม่ว่าจะเป็นโซนห้องพักหรือแม้แต่วิลล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนอย่างมาก
Q: เรียกว่าสอดรับกับชื่อ ‘ศิลาวดี’ เลยใช่ไหม
A: ใช่ค่ะ เพราะความหมายของชื่อศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท ก็มาจากแหล่งหินสวยงาม เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของรีสอร์ทเต็มไปด้วยก้อนหินตามธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งทางเจ้าของได้บอกสถาปนิกว่าให้เก็บก้อนหิน และความงามตามธรรมชาติไว้ ไม่อยากให้ถูกทำลาย ฉะนั้นถึงไม่แปลกใจเลยว่าบางมุมของห้องอาหารในรีสอร์ท ก็จะมีก้อนหินตั้งอยู่ด้วย
Q: ย้อนไปในวันแรกๆ ของการทำรีสอร์ท อะไรคือตัวจุดประกายให้เริ่มโปรเจกต์นี้
A: เดิมทางครอบครัวมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งในเกาะสมุย ซึ่งในช่วงที่มีสึนามิใหญ่ในประเทศไทย มูลค่าของพื้นที่ตรงนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเกาะหลักๆ ในภาคใต้ตอนนั้นถูกถล่มหนัก เกาะสมุยจึงกลายเป็นอีกทางเลือกใหม่ของนักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย และภาพในตอนนั้นคือมีนักลงทุนสนใจมาซื้อที่ดินในเกาะสมุยจำนวนมาก ตอนแรกเราก็คิดว่าอยากจะขาย เพราะราคาของที่ดินขึ้นอย่างมหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อได้ท้วงไว้คือ จะขายไปเพื่ออะไร จะนำเงินไปทำอะไร ถ้าคิดว่าตรงนี้กำลังเป็นโอกาส ทำไมไม่สร้างสรรค์สิ่งที่มีคุณค่าขึ้นมาแทนล่ะ พอได้ฟังแบบนั้นก็กลับมานั่งทบทวนกันดูว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เฉียดเข้ามาในทุกความคิดของครอบครัวเราคือเรื่องท่องเที่ยว เราชอบท่องเที่ยว เราชอบไปพักที่ต่างๆ ก็เลยลองตั้งธงกันว่า เรามาดัดแปลงที่ดินตรงนี้ให้เป็นธุรกิจที่พักดีกว่า
Q: ภาพธุรกิจที่พักในแบบของคุณ ณ ช่วงนั้นเป็นอย่างไร
A: ตอนนั้นเรารู้สึกว่าธรรมชาติคือสิ่งที่คนแสวงหา ไม่ว่าจะชาติไหนก็ตาม เราจึงไม่คิดอยากจะดึงเชนโรงแรมมาทำ เราอยากทำในแบบที่เราเชื่อ และที่สำคัญแนวคิดนี้มันก็เข้ากับสไตล์ของเกาะสมุยด้วย เราจึงเริ่มออกแบบโดยใช้ธรรมชาติเป็นศูนย์กลาง โดยพื้นที่ที่มีอยู่ ก็พยายามไปรบกวนธรรมชาติเดิมให้น้อยที่สุด ถ้าต้นไม้ พันธุ์ไม้ หรือก้อนหินส่วนใด ได้รับการรบกวนจากการก่อสร้าง เราก็จะพยายามหาสิ่งที่ใกล้เคียงกลับมาเติมใหม่ให้เต็ม เพื่อให้รีสอร์ทของเรามีความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะเราอยากให้รีสอร์ทที่นี่เป็นที่พักของกลุ่มครอบครัวและหนุ่มสาวฮันนีมูน ที่แสวงหาความสงบแบบที่หาไม่ได้ใช่ชีวิตแบบเมือง
Q: คุณเคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนหรือเปล่า
A: ต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้เรียนการโรงแรมมา แต่อาศัยครูพักลักจำไปเข้าคอร์สด้านการโรงแรมสั้นๆ บ้าง และไปทดลองทำงานในโรงแรมอื่นๆ บ้าง ซึ่งทั้งหมดดิฉันทำตอนที่รีสอร์ทกำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง(ประมาณ 2 ปี) เราใช้เวลาตรงนั้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านที่พักอาศัย และเรียนรู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไปในตัว ซึ่งมีประโยชน์กับชีวิตอย่างมาก
Q: หลังจากเริ่มเปิดให้บริการมา ผลตอบรับเบื้องต้นเป็นอย่างไร
A: ถ้าย้อนไปในช่วงแรกๆ เราได้รับการตอบรับดีมากจากนักท่องเที่ยวในโซนยุโรป โดยเฉพาะกับกลุ่มครอบครัว หลังจากนั้นก็เริ่มมีกลุ่มนักท่องเที่ยวในเอเชีย ทั้งจีนและอินเดีย และรวมถึงประเทศไทยเข้ามาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะกลุ่มจีนและอินเดียที่ตอนนี้จองเข้ามาเยอะมาก ส่วนหนึ่งเพราะเราคงทราบกันดีว่าประเทศเหล่านี้มีกำลังซื้อสูง และมีความต่อเนื่องในการใช้จ่าย ซึ่งเราก็คงต้องวางแผนในการทำโซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง เพื่อเข้าหากลุ่มตลาดนี้มากขึ้น ขณะที่ตลาดยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของเรา ก็ยังมีการสื่อสารในเรื่องของแพ็กเกจและโปรโมชั่นกับกลุ่มเป้าหมายอย่างสมํ่าเสมอ
Q: นักท่องเที่ยวหลายๆ คนมีการพูดแบบปากต่อปากว่า มาที่นี่ที่เดียวไม่ต้องออกไปเที่ยวที่อื่นเลยก็ยังได้ ตรงนี้ดูจะเกินจริงไปไหม
A: ตรงนี้ก็คงต้องแล้วแต่มุมมองของนักท่องเที่ยวแต่ละท่านนะคะ แต่ถ้าจะให้เรียนตามตรงก็คือ การใช้ชีวิตอยู่ในศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท นั้นเราจะมอบบริการที่ตอบโจทย์กับหมุดหมายของนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร โดยที่นี่จะมีความครบครันทั้งร้านอาหารที่มีให้เลือกชิมหลากหลายประเภทอาหาร และสปาที่พร้อมจะทำให้ผู้มาเยือนผ่อนคลายที่ ‘ศิลาวดี สปา ’(Silavadee Spa) ด้วยการนวดจากผู้มีประสบการณ์และความชำนาญทางด้านสปาโดยเฉพาะ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสมุนไพรไทย ‘PANPURI’ สำหรับตัว และ ‘Anne Semonin’ สำหรับผิวหน้าที่จะทำให้คุณผ่อนคลายแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน อีกทั้งกิจกรรมในโรงแรม ก็มีบริการสำหรับลูกค้าที่มาพักอย่างหลากหลาย ให้ได้ทำตั้งแต่เช้าจดเย็น ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น มวยไทย โยคะ พายเรือคายัคหรือดำนํ้าตื้น ซึ่งบริการเหล่านี้ ‘ไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม’ เพราะเรามีไว้สำหรับบริการลูกค้าที่มาพักที่โรงแรมเท่านั้น ฉะนั้นไม่ว่าจะเล่นอะไรก็จะมีคนดูแลและให้ความเป็นส่วนตัวราวกับเป็นคนพิเศษในดินแดนแห่งศิลาวดีนี้แน่นอน สิ่งนี้เป็นวันสต็อปเซอร์วิสที่เรามองว่าเป็นอีกจุดแข็งของเราค่ะ
Q: คุณทำยังไงให้คนรู้จักแบรนด์ ‘ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท’ ในวงกว้างขึ้น
A: ส่วนตัวแล้วเป็นคนเชื่อในพลังของสินค้าที่มีคุณภาพ สิ่งที่เราทำมาตลอดหลายปี ตอบคำถามเรื่องนี้ได้ดี เพราะการตลาดที่สร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ล้วนแล้วแต่เกิดจากการพูดกันปากต่อปาก นักท่องเที่ยวไปพูดกับคนในประเทศ นักรีวิวนำไปเสนอกับโซเชียลมีเดีย ส่วนเราก็ทำหน้าที่บริหารจัดการคอนเทนต์ในโซเชียลแพลตฟอร์มตามทิศทางที่ควรจะเป็น ดิฉันไม่เคยใช้เงินซื้อสื่อเลย เพราะเชื่อว่าธุรกิจที่พักอาศัย ต้องมาสัมผัสเอง และประเมินเองว่ามันดีหรือไม่ดี และวันนี้จากจำนวนห้องพักของเราที่เต็มไปถึงปีหน้า และต้องจองล่วงหน้าประมาณ 4-5 เดือน ก็น่าจะเป็นคำตอบของแบรนด์เราแล้วค่ะ
Q: ว่ากันว่าหัวใจของธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริการก็คือ ‘คน’ คุณมีการบริหารจัดการส่วนนี้อย่างไร
A: ดิฉันพยายามบอกกับพนักงานทุกคนให้รู้สึกว่าแขกที่มาพักคือเพื่อน ไม่ใช่คนแปลกหน้า คุณจะดูแลเพื่อนคุณยังไง คุณอยากจะให้เพื่อนของคุณได้มีความสุขกับทริปนี้แค่ไหน ตรงนี้ คือโจทย์และทุกคนทำได้ดีมาก ขณะเดียวกันดิฉันจะให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมกับธุรกิจ หมายถึง ให้เขารู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง รู้สึกว่าเป็นเจ้าของ ปัญหาหรือสิ่งที่คิดว่ามันถูกต้องและไม่ถูกต้อง ทุกคนสามารถสะท้อนออกมาได้ ยกตัวอย่างเช่น แม่บ้านที่ทำความสะอาด บางคนอาจจะมองข้าม แต่ดิฉันจะให้ความสำคัญ พร้อมทั้งพยายามถามเขาเสมอว่า ทุกครั้งที่แขกมาเข้าพัก สังเกตเห็นว่าแขกเขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรบ้าง ให้เขาเสนอประสบการณ์จริงแก่เรา ซึ่งเรื่องแบบนี้เราไม่มีทางรู้ได้เลย และสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกนำกลับไปปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจต่อ นี่ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะดิฉันมองว่ามันเป็นการให้คนได้ฝึกทักษะของการสังเกต และแสดงออก รวมถึงปลูกฝังความรู้สึกของการเป็นเจ้าของ อันจะส่งผลให้ทุกคนทำงานบริการด้วยหัวใจ
Q: คุณมีความสุขกับธุรกิจนี้แค่ไหน
A: ต้องบอกว่าตอนนี้ ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ดิฉันมีความสุขกับมันมาก ซึ่งส่วนตัวแล้วความสุขของคนทำธุรกิจนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้ แต่เป็นความสนุกที่แต่ละวันได้พบเจอผู้คนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแขกที่เข้าพัก หรือพนักงาน อย่างแขกบางคนเราเจอหน้ากันปีละครั้ง เราคุยกันจนเหมือนเป็นเพื่อนไปแล้ว และมันก็ส่งต่อไปสู่ความท้าทายที่เราจะทำยังไงให้เพื่อนของเราที่อุตส่าห์กลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปในทุกๆ ครั้ง นั่นคือความสุขที่ดิฉันสัมผัสได้
Q: อะไรคือตัววัดผลสำเร็จที่ดูเป็นรูปธรรมและสร้างความภาคภูมิใจแก่คุณมากที่สุด
A: อย่างที่บอกไป เรามีนักท่องเที่ยวที่รู้จักเรามากขึ้น เรามีนักท่องเที่ยวที่กลับมาหาเราซํ้าแล้วซํ้าเล่า และเราก็ถูกพูดถึงในโลกของธุรกิจท่องเที่ยวตลอด 11 ปีที่เปิดตัวมา แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกประทับใจอย่างมาก คือ การได้รับรางวัลจาก ‘World Luxury Hotel Awards 2018’ เว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับและมีเครือข่ายมากที่สุดในโลก โดยแขกที่มาพักได้ร่วมลงคะแนนให้แก่รีสอร์ทในระดับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความใส่ใจในด้านการบริการ ความประทับใจและไว้วางใจ โดยงานจัดที่ โรงแรม AYANA Resort & Spa เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตรงนี้ทำให้ ดิฉันและพนักงานทุกคนมีพลังที่จะมอบความสุขแก่ทุกๆ คนที่มาเยี่ยมเยือนที่นี่ต่อไป
Q: อยากให้ฝากทิ้งท้ายถึงการท่องเที่ยว 4.0 สักหน่อย
A: การท่องเที่ยวเป็นภาพใหญ่ที่สำคัญของประเทศไทย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันตั้งแต่การควบคุมดูแลผู้ประกอบการและธุรกิจเกี่ยวข้อง การให้การศึกษาโดยเฉพาะด้าน Hospitality and Tourism ที่เรายังผลิตบุคลากรได้ไม่เพียงพอ รวมไปถึงการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวของประเทศ แต่ก็ทราบว่าทางรัฐบาลมีการเพิ่มจำนวนตำรวจท่องเที่ยว มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงเกาะสำคัญๆ ของประเทศด้วย ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวในระยะยาวมากยิ่งขึ้น
โรงแรมศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท
ที่ตั้ง : 208/66 หมู่ 4 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รหัสไปรษณีย์ 84310
ห้องพัก : ห้องพักแบบดีลักซ์ จำนวน 36 ห้อง และพูลวิลลา 44 ห้อง
ห้องอาหาร :
โทรศัพท์ : 08-1370-0758, 0-7796-0555