สรุปความสำเร็จของ ‘แมคโดนัลด์’ ผ่านมุมมองของ ‘คุณกิตติวรรณ อนุเวชสกุล’
30 May 2025

 

ปี 2567 สามารถทุบสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดขายสูงถึง 7,957 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2567 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เติบโตได้อย่างมั่นคงในฐานะผู้นำอันดับ 1 ตลาดเบอร์เกอร์ในไทย และแผนเชิงรุกตลาดไก่ทอดที่ดันการเติบโตทะลุเป้ากว่า 33%

 

นั่นคือ คำกล่าวที่สะท้อนภาพมุมมองความสำเร็จของการทำตลาด QSR ของ แมคโดนัลด์ ในประเทศ ของ คุณกิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ที่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว เพราะความสำเร็จในแง่ของยอดขายที่แมคโดนัลด์ทำได้ในปีที่ผ่านมานั้น สวนทางกับภาพรวมของเศรษฐกิจที่เติบโตไม่ค่อยดีนัก 

ไม่เพียงเท่านั้น การเติบโตที่ทำออกมาได้ นับเป็นการเติบโตของยอดขายที่มีต่อเนื่องมาตลอดในช่วง 3 ปีหลังมานี้ บ่งบอกถึงกลยุทธ์ในการทำตลาดที่โดนใจลูกค้า จนทำให้สามารถสร้างการเติบโตได้แบบเป็นอีกปรากฏการณ์ของตลาด 

 

กิตติวรรณ บอกว่า การเติบโตในตัวเลขที่ค่อนข้างดีนี้ มาจากการเน้นย้ำในเรื่องของการนำเสนอ Flagship Value Platform เน้นอร่อยคุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า โดยเธอมองว่า ในยุคที่ลูกค้าเริ่มมองหาความ ‘คุ้มค่า’ (Value for money) มากขึ้น การมี Value Platform ที่เข้มแข็งเข้ามาช่วยทำให้ลูกค้าเข้าถึงการให้บริการของแมคโดนัลด์ได้ง่ายขึ้นในทุกๆ วัน

ไม่ว่าจะเป็น ชุด ‘EVM’ (Everyday Value Meals) ราคาเพียง 99 บาท ทั้งเมนูเบอร์เกอร์ และ ไก่ทอดแมค รวมถึง ชุด ‘McSavers 1+1’ ราคาเพียง 55 บาท ให้เลือกจับคู่เมนูของว่างและของหวาน นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชัน 
คูปองแมคโดนัลด์ มอบคูปองชุดอาหารที่หลากหลาย และราคาคุ้มค่า เหมาะกับลูกค้าทุกกลุ่ม ในราคาประหยัดได้สูงสุดถึง 50% ซึ่งได้การตอบรับที่ดีอย่างมาก โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอปคูปองแมคโดนัลด์ มากกว่า 4.7 ล้านคน 

เช่นเดียวกับการให้ความสำคัญในการสร้างโปรดักท์ ฮีโร่ใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง อย่างในปีที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ให้ความสำคัญกับการทำตลาดไก่ทอดค่อนข้างมาก จนกลายเป็นอีกหัวใจสำคัญในการเข้ามาขับเคลื่อนการเติบโตให้กับยอดขายของแมคโดนัลด์ 

 


 

 


“ไก่ทอดแมค ในปีที่ผ่านมา สร้างการเติบโตได้ถึง 33% จากกลยุทธ์การสื่อสารเชิงรุกด้วยพรีเซ็นเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ แฟนไก่ทอดแมคตัวจริง เสริมทัพด้วยพลังแห่งแฟนด้อม และในปี 2568 ก็ยังคงต่อยอดความสำเร็จด้วยคอนเซปต์ ‘กรอบ ชุ่มฉ่ำ อร่อย ใหญ่ทุกชิ้น’ และ พรีเซ็นเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z

ที่พร้อมลองสิ่งใหม่ๆ และคุ้มค่าเสมอ ทั้งยังสร้างแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจและตรงใจ GEN Z ในทุกๆ เทศกาล เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น คาดโตเพิ่มมากกว่า 15% ในปี 2568”


 

ผู้บริหารของแมคไทย กล่าวเสริมอีกว่า แมคโดนัลด์ โดดเด่นในตลาด QSR จากเมนูเบอร์เกอร์และสามารถครองใจลูกค้าเป็นอันดับ 1 มาต่อเนื่องกว่า 40 ปี ด้วยคุณภาพและรสชาติที่อร่อย คุ้มค่า คุ้มราคา ตั้งแต่เมนูระดับตำนานอย่าง ‘ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์’, ‘บิกแมค’ หรือ ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ วิทชีส

นอกจากนี้ยังคงพัฒนา
เมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองอย่างต่อเนื่อง เช่น ‘มั่งมีเบอร์เกอร์’ เบอร์เกอร์ทรงยาว และ ‘ซามูไร ดีลักซ์ เบอร์เกอร์’ ที่พัฒนาต่อยอดความอร่อยจากเมนูฮิต ตลอดกาล ‘ซามูไรเบอร์เกอร์’ ซึ่งแน่นอนว่าในปีนี้ แมคโดนัลด์จะยังคงคัดสรรเมนูใหม่ๆ และแคมเปญเด็ดๆ มาปลุกกระแสตลาดเบอร์เกอร์ให้คึกคัก พร้อมผลักดันให้ยอดขายสามารถเติบโตได้แข็งแกร่งต่อไป

 

ปัจจุบัน แมคโดนัลด์ ในประเทศไทย มีสัดส่วนจากยอดขายที่เป็นเบอร์เกอร์ ประมาณ 55% ส่วนไก่ทอดที่มีการเติบโตค่อนข้างดีในปีที่ผ่านมา
สามารถทำสัดส่วนได้ประมาณ 19-20% 
ซึ่งนั่นไม่สำคัญเท่ากับโปรดักท์ตัวนี้ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันให้แมคโดนัลด์ เข้าไปแข่งขันในตลาดไก่ทอด ที่มีขนาดของตลาดใหญ่กว่าตลาดเบอร์เกอร์ถึงกว่าเท่าตัว

 

 

ส่วนอีกหัวใจที่เข้ามาช่วยในการสร้างการเติบโตของยอดขายก็คือ การบริการ ซึ่งเธอบอกว่า แมคโดนัลด์ให้ความสำคัญกับการชนะใจลูกค้าด้วยที่สุดแห่งประสบการณ์การบริการ สร้างความสุขแก่พนักงาน เพื่อส่งมอบการบริการที่ดีแก่ลูกค้าต่อไป โดยหนึ่งในหัวใจหลักของงานบริการคือ พนักงาน ซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญในการสร้างความรู้สึกในเชิงบวกกับลูกค้าที่จะมีต่อแบรนด์

ดังนั้น 
แมคโดนัลด์จึงให้ความสำคัญต่อการสร้างความสุขให้กับพนักงานในทุกมิติและความผูกพันระหว่างพนักงานกับองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ซึ่งนับเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จในการส่งมอบ Happy Moment ระหว่างแบรนด์และลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจและความประทับใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าของเรา

เช่นเดียวกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการให้การบริการแก่ลูกค้าที่แมคโดนัลด์ เป็นผู้นำแห่งการมอบประสบการณ์การบริการที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงบริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ และ พนักงานต้อนรับ ผู้ช่วยที่คอยบริการลูกค้าภายในร้าน

โดยปีที่ผ่านมาเราได้ติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติครบทุกสาขาแล้ว และตั้งเป้าให้ทุกสาขาใหม่ที่จะเปิดให้บริการ
ในปีนี้จะต้องมีเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ เพื่อมอบบริการไร้รอยต่อที่แท้จริงให้แก่ลูกค้า

 

 

ขณะที่เรื่องของแผนการขยายสาขานั้น ปัจจุบัน แมคโดนัลด์ เปิดให้บริการจำนวนกว่า 240 สาขา ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีทองที่เราจะเร่งเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ในทำเลศักยภาพเพื่อดันการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายและเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

โดยมี
แผนจะเปิดสาขาใหม่กว่า 20 สาขา และรีโนเวทร้านสาขาเดิมจำนวน 25 สาขา ภายใต้ 3 คอนเซปต์หลัก ได้แก่ ‘Geometry’ โมเดิร์น ทันสมัย สีสันสดใส, ‘Essential Ingredients 2.0’ ถ่ายทอดแบรนด์บนศิลปะป๊อปอาร์ต และ คอนเซปต์ ‘CUBE’ ถ่ายทอดแบรนด์ผ่านชิ้นงานกราฟิก
 

ปี 2568 นี้ ถือเป็นปีที่ฉลองครบรอบ 40 ปีของการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของแบรนด์ QSR ระดับโลกแบรนด์นี้ โดยในปีนี้ จะมีการเปิดตัวแคมเปญใหญที่แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ชวนย้อนถึงเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมาย จนเป็นความทรงจำที่อยู่คู่กับคนไทยมาตลอด 40 ปีกับ แคมเปญ ‘40th Fanniversary’ พร้อมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 อีกหนึ่งขั้นแห่งความสำเร็จของแมคโดนัลด์ที่พร้อมเติมเต็มความสุขแก่คนไทยด้วยกิจกรรมเซอร์ไพรส์ตลอดทั้งปี 2568 เพื่อขอบคุณลูกค้าที่อยู่เคียงข้างแมคโดนัลด์ในทุกโมเมนต์ตลอดมา

 

 

แน่นอนว่า เรื่องของความยั่งยืน ยังคงเป็นแกนหลักในการทำธุรกิจของแมคโดนัลด์ในประเทศไทย ที่มีการส่งแคมเปญที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ ‘McHappy Smile’ ส่งต่อรอยยิ้มแห่งความสุขสู่เด็กและเยาวชน ที่แมคโดนัลด์ มุ่งให้ความสำคัญกับการมอบรอยยิ้มและสร้างโมเมนต์แห่งความสุขสำหรับเด็กและครอบครัว ซึ่งนับเป็นรากฐานสำคัญของสังคม

ปัจจุบันแคมเปญ ‘McHappy Smile’ ได้ร่วมส่งมอบรอยยิ้มและสุขแก่เด็กและ เยาวชนไทย ผ่านกิจกรรม
อันสนุกสนาน จากพี่โรนัลด์และผองเพื่อน รวมถึงมื้ออาหารแสนอร่อยรวมกว่า 2,200 มื้อ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพนักงานจิตอาสาจากสำนักงานใหญ่ และพนักงานหน้าร้าน จำนวนกว่า 100 คน โดยภายในปี แมคโดนัลด์ จะยังคงเดินหน้าสานต่อแคมเปญนี้ เพื่อส่งต่อรอยยิ้มแห่งความสุขให้กับเด็กและเยาวชนตามจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทยต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการทำงานผ่านมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์เฮาส์ ประเทศไทย ที่แมคโดนัลด์ ยังคงเดินหน้าในการเป็นผู้สนับสนุนหลักของมูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย ซึ่งมีพันธกิจ ด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยเด็ก และครอบครัวมายาวนานกว่า 24 ปี โดยมีโครงการต่างๆ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิฯ อาทิ

  • โครงการบ้านพักพิงโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ หรือ ‘บ้านแมค’ ซึ่งปัจจุบันได้ช่วยเหลือครอบครัวผู้ป่วยเด็กมากกว่า 34,000 ครอบครัว โดยให้บริการที่พัก แก่ครอบครัวผู้ป่วยเด็ก ที่ต้องเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัดได้เข้าพักระหว่างที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ รพ.เด็ก, รพ.นพรัตนราชธานี, รพ.จุฬาลงกรณ์, รพ.ศิริราช
  • หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่โรนัลด์ แมคโดนัลด์ ภายใต้โครงการ ‘สุขภาพดีใต้ร่มพระบารมี’ ให้บริการด้านทันตสุขภาพแก่เด็กๆ ในถิ่นทุรกันดาร ปัจจุบันให้บริการตรวจรักษาฟันไปแล้ว กว่า 56,000 คน
  • โครงการห้องสันทนาการเด็ก จำนวน 40 แห่ง ให้บริการพื้นที่สำหรับให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวในระหว่างเข้าพักรักษาตัวหรือรอพบแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งเป้าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ภายในปี 2568 นับเป็นอีกก้าวสำคัญ เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกย่อยสลายได้ และลดการใช้พลาสติก

ปัจจุบัน แมคโดนัลด์ ได้เริ่มเปลี่ยนสู่บรรจุภัณฑ์
รักษ์โลก โดยใช้วัสดุกระดาษซึ่งผ่านการรับรองจากสถาบัน ‘Forest Stewardship Council™ (FSC)’ ตามมาตรฐานการจัดการผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ที่ถูกต้อง เช่น กระดาษห่อเบอร์เกอร์, ถุงกระดาษบรรจุเมนูอาหาร, ถ้วยกระดาษใส่ซอส และภายในไตรมาสที่ 2 นี้ จะเพิ่มในส่วนของกล่องกระดาษบรรจุเมนูข้าว กล่องกระดาษบรรจุซอสดิปต่างๆ และกล่องบรรจุภัณฑ์ไก่ทอดพร้อมฝาปิดแบบกระดาษ โดยตั้งเป้าเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกครบ 100% ภายในปี 2568

 

 

“ตลอด 40 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราเชื่อว่า แมคโดนัลด์ เป็นมากกว่าร้านอาหาร เราได้อยู่เคียงข้างลูกค้าเพื่อส่งต่อรอยยิ้ม ความสุข ส่งมอบประสบการณ์และโมเมนต์ดีๆ จากรุ่นสู่รุ่น จากการดำเนินกลยุทธ์ข้างต้น

เราเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันให้
แมคโดนัลด์สามารถเติบโตทะลุเป้าได้กว่า 10% ภายในปี 2568 ทั้งยังคงเดินหน้าพัฒนาเมนูและบริการที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้า เพื่อตอกย้ำ
การเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ในประเทศไทยต่อไป”  กิตติวรรณ กล่าวสรุปปิดท้าย 


 

[อ่าน 304]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก “ปิ่นเพชร โกลบอล” ผู้อยู่เบื้องหลัง “ฮากุ” แบรนด์ทิชชู่เปียกของคนไทย
ดิษทัต ปันยารชุน วางรากฐาน OR เตรียมส่งไม้ต่อให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
วีรพล สวรรค์พิทักษ์ ยุทธศาสตร์ Eminent Air สู่ทศวรรษที่ 5
บทพิสูจน์ MAZDA เพื่อก้าวสู่ การเติบโตที่ยั่งยืน
ซีเล็คทูน่า x Sesame Street ครั้งแรกของโลก เมื่อก๊วนเพื่อนแสนซน แห่งถนนเซซามี่ มาอยู่บน ทูน่ากระป๋อง
เปิดใจ ‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ ทำอย่างไร ให้ร้านอาหารในเครือ ‘บิสโตร เอเชีย’ สามารถเข้าถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ได้
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved