ไดเร็ค เอเชีย รุกหนักประกันรถยนต์ออนไลน์ ชิงเป้า Top of Mind แบบ Disrupter
04 Nov 2019

 

ไดเร็ค เอเชีย รุกหนัก จัดเต็ม ตั้งเป้าชิงตำแหน่ง Top of Mind เซ็กเม้นท์ประกันรถยนต์ออนไลน์แบบ Disrupter ออกอาวุธครบเครื่องทั้ง Product - Pricing - Process - Proactive ตั้งแต่การออกโปรดักท์ ตอบโจทย์จี๊ดๆ ทั้ง พร้อมตั้งค่าเบี้ยตามฐานพฤติกรรม แถมถูกกว่ารายอื่นๆ กระบวนการทำงานที่รวดเร็ว เชื่อถือได้และความพร้อมบริการแบบ Proactive เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นเลิศทางประสบการณ์  

 

"ไดเร็ค เอเชีย เป็นธุรกิจที่ Disrupt ธุรกิจประกันภัย  

เพราะเราเข้ามาในเซ็กเม้นท์ออนไลน์เป็นรายแรก

แล้วการเข้ามาของเรา ทำให้หลายๆ บริษัทปรับตัว" 

 

วรวุฒิ วาริการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ไดเร็ค เอเชีย  (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการรุกตลาดประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ว่า ในฐานะที่ ไดเร็ค เอเชีย เป็นประกันภัยออนไลน์รายแรก ของประเทศไทย โดยทำธุรกิจบนเว็บไซต์ DirectAsia.co.th อีกทั้ง มีฐานที่แข็งแกร่งจากการเป็นส่วนหนึ่งของ Hiscox ธุรกิจประกันภัยระดับโลกและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ด้วยมูลค่าทางการตลาดกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เราตั้งเป้าที่จะเป็น Top of Mind ของเซ็กเม้นท์ประกันรถยนต์ออนไลน์ ผ่านกลยุทธ์ 4Ps ซึ่งประกอบด้วย Product - Pricing - Process - Proactive เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเป็นเลิศทางประสบการณ์ให้กับลูกค้ายุค 4.0

 

PRODUCT

วรวุฒิกล่าวว่า "เนื่องจากการซื้อประกันบนช่องทางออนไลน์ไม่ใช่แค่ความสะดวก แต่ต้องหมายถึงความเชื่อมั่นด้วย ดังนั้นเราจึงปรับปรุงเว็บไซต์ครั้งใหญ่ เพื่อเน้นให้ผู้ใช้ใช้งานได้ง่าย (User Friendly) และสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ การเช็คราคาเบี้ยประกันและความคุ้มครองได้ง่ายขึ้นด้วยตนเอง โดยเริ่มต้นที่ "ประกันรถยนต์ชั้น 2+" (ประกันรถยนต์ชั้นสองบวก) ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์แห่งปีที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น เนื่องจากเราได้ศึกษาถึงความต้องการของประกันรถยนต์ ชั้น 2+ อย่างลึกซึ้ง และพบว่าที่จริงลูกค้าก็อยากซื้อประกัน 2+ แต่ก็กลัวว่าความคุ้มครองจะไม่มากพอ

"ประกัน 2+" เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองสูงถึง 2 เท่าของทุนประกัน หรือสูงสุด 7 แสนบาท ในกรณีรถหายไฟไหม้ ซึ่งความคุ้มครองนี้ถือว่าสูงที่สุด รวมถึงการมีทุนประกันให้เลือกสูงสุดที่ 3.5 แสนบาท พร้อมเงื่อนไขผ่อนสบายๆ 0% นาน 10 เดือนเริ่มที่ 4XX บาท/ งวด และการันตีมาไวถึงสถานที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีประกันเจ้าไหนเคยให้มาก่อน"

 

 

นอกจากนี้ อู่หรือศูนย์บริการที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจประกันรถยนต์นั้น วรวุฒิกล่าวว่า

"ปัจจุบัน เครือข่ายอู่หรือศูนย์บริการของ ไดเร็ค เอเชีย มีมากขึ้น เปรียบเทียบง่ายว่า "ทุกๆ15 นาทีจะเจออู่ไดเร็ค เอเชีย" แตกต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่อาจจะต้องขับถึง 150 นาที ณ วันนี้เครือข่ายอู่ของเรามีอยู่ที่ 661 แห่ง และในอนาคตอันใกล้เราน่าจะขยายไปที่ 800 แห่ง ซึ่งเทียบกับประกันที่มีอู่มากที่สุดในตลาดเขาจะมีอยู่ที่ 1,000 กว่าแห่ง จากที่เปิดมาถึง 70 ปี เมื่อเทียบกับเราเปิดมา 5 ปี แล้วมีกว่า 600 แห่ง ก็ไปเกินครึ่งทาง เมื่อเทียบกับลูกพี่แล้ว เฉลี่ยแล้วไดเร็ค เอเชียสามารถขยายอู่ได้เกินปีละ 130 แห่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเมื่อถึง 70 ปีเราจะมีเครือข่ายอู่เป็นหมื่น เพราะจริงๆ แล้วอู่ก็มีอยู่เท่านี้แหละ ฉะนั้น ปีหน้าถ้าเพิ่มอีก 200-300 แห่งก็จะถึงจุดที่ว่า หากรถพัง ลูกค้าก็จะมีอู่ที่ไว้ใจได้ของตนเอง เราอาจจะมีอู่น้อย แต่ทุกอู่มีคุณภาพ และได้งานกับเราอย่างสม่ำเสมอ  ฉะนั้นบอกได้ว่า เราเล็ก แต่เซ็กซี่ เราเล็กแต่เล็กพริกขี้หนู"

 

"เราต้องปรับเปลี่ยน

เมื่อโลกเปลี่ยน"

 

PRICING

สำหรับโครงสร้างราคาค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ วรวุฒิกล่าวว่า ไดเร็ค เอเชีย ไม่เหมือนกับผู้เล่นรายอื่นๆ ที่ทำธุรกิจประกันในแพลตฟอร์มแบบเดียวกัน เนื่องจากเราอยากจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ราคาเหมาะสมที่สุดกับกลุ่มลูกค้าของเรา  

"การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ด้วยราคาที่เหมาะสมนั้น คือปัจจัยที่สำคัญ ทั้งนี้ เหตุผลที่ลูกค้าวันนี้นิยมซื้อออนไลน์ เนื่องจาก เขาได้บริการที่มีความสม่ำเสมอ แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ตลาดประกันรถยนต์ในประเทศไทยยังถูกครอบด้วยเอเย่นต์ และโบรกเกอร์ ขณะที่ ไดเร็ค เอเชีย มีแต่ระบบ ไม่มีเอเย่นต์ ฉะนั้น ราคาที่นำเสนอกับลูกค้าจึงต้องมีความเสถียร ไม่ใช่โครงสร้างราคาที่ตั้งเผื่อค่าคอมมิชชั่นของเอเย่นต์ และโบรกเกอร์ แต่เป็นการคำนวณราคาเบี้ยประกันจากฐานพฤติกรรม (Behavioral Based Pricing) ยกตัวอย่าง เช่น ลูกค้าสองคนที่ใช้รถยนต์เหมือนกันรุ่นเดียวกัน ซื้อปีเดียวกัน ถ้าเป็นบริษัทประกันทั่วไปก็จะคิดค่าประกันรถยนต์เท่ากัน แต่ถ้าเป็น ไดเร็ค เอเชีย จะพิจารณาถึงตัวแปรต่างๆ เพื่อกำหนดโครงสร้างแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) เช่น

 

  • คัน A คนขับเป็นผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ไม่ปาร์ตี้ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ไม่มีพฤติกรรมเมาแล้วขับ ไม่มีประวัติชน
  • คัน B คนขับเป็นผู้ชายอายุ 25 ปี ปาร์ตี้ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ มีพฤติกรรมเมาแล้วขับรถชน

 

ฉะนั้น ด้วยโครงสร้างราคาค่าประกันรถยนต์ของสองคนนี้ก็จะแตกต่างกันตามฐานพฤติกรรม เนื่องจาก เรามีระบบหลังบ้านเพื่อทำความเข้าใจ และวิเคราะห์โปรไฟล์ของลูกค้า ด้วยการกรอกข้อมูลสั้นๆ ไม่ถึงสองนาทีลูกค้าก็สามารถเห็นราคากันได้เลย จากนั้นก็จะมีเทเลเซลส์โทรกลับมาเพื่อยืนยันข้อมูล และทำความเข้าใจว่าหากมีการเฉี่ยวชนมีค่าความเสียหายส่วนแรกหรือไม่ ประกันคุ้มครองเรื่องไหนบ้าง เป็นต้น"

 

 

PROCESS

"ด้วยจุดแข็งของเราที่เป็นบริษัท Insurance Tech ประกอบกับเรามีกรอบความคิด (​Mindset) ที่ต้องการให้ลูกค้ามีความสุข ได้รับบริการที่รวดเร็ว และได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจมากที่สุด ดังนั้น เมื่อเราลงลึกกับการทำงานเพื่อทำความเข้าใจกับกระบวนการทำงานหรือต้นตอของปัญหาต่างๆ และพยายามใช้ประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซและออนไลน์เพื่อช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมายของการเป็น Top of Mind สำหรับประกันรถยนต์ออนไลน์  โดยเฉพาะกระบวนการเคลมในตลาดประกันรถยนต์ ซึ่งขณะนี้ทุกรายต่างก็ใช้บริการเคลมของ Outsource ที่การันตีว่า จะถึงที่ให้เร็ว ภายใน 30 นาที ทั้งนี้ เราเป็นรายแรกที่กล้าการันตี 30 นาที"  

 

ทั้งนี้ ไดเร็ค เอเชีย ได้แบ่งประเภทของการเคลม ดังนี้

  • "เคลมแห้ง" ถือเป็นการเคลมที่ไม่มีปัญหาหนักหนา เพราะเมื่อออกใบเคลมแล้ว ถ้าไม่แยกย้าย เราก็ไปที่อู่หรือศูนย์ได้ ทั้งนี้ เครือข่ายศูนย์ในเครือของเรานั้นมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน ลูกค้าจะได้รถกลับไปใช้งานเร็ว เนื่องจากเราจ่ายเงินอู่ซึ่งเป็นคู่ค้าเร็ว

 

  • "เคลมสด" ถือเป็นการเคลมที่เกิดแผลจริงๆ จากการเฉี่ยวชน ซึ่งหากพื้นที่เกิดเหตุเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล เขตอำเภอเมืองก็จะไปให้ถึงที่เกิดเหตุภายใน 30 นาที ด้วยความพยายามที่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว "อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่ายังคงมีข้อร้องเรียนบ้างเกี่ยวกับระยะเวลาแต่ก็เป็นปริมาณที่ยังถือว่ารับได้ ที่สำคัญ สถิติการเคลมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่า ในอนาคตก็อาจจะใช้เวลาไม่เกิน 25 นาที หรือในอนาคตก็อาจจะมีเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้เราใช้แค่สมาร์ทโฟนและสามารถที่จะเก็บข้อมูลอะไรได้ ในอนาคตก็อาจจะเป็นอะไรที่ทันสมัยกวานั้น ซึ่งเราก็กำลังศึกษาแนวทางและความเป็นไปได้อยู่" วรวุฒิกล่าว

 

 

PROACTIVE

เพื่อสร้างการเป็น Top of Mind ของธุรกิจประกันรถยนต์ออนไลน์ในประเทศไทยของไดเร็ค เอเชีย การนำเสนอบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอย่าง Proactive จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ นี่จึงเป็นที่มาของบริการ Easy Fix อันเป็นบริการที่เอาใจคนเมือง และลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเวลา ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ ไดเร็ค เอเชียจะมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่จะแก้ปัญหาความยุ่งยากในการเอารถเข้าซ่อม โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเพียงโทรมาแจ้งเราและขับรถมาที่สำนักงานที่อาคารเอเชียเซ็นเตอร์ ย่านสาทร ซึ่งสะดวกสบายใกล้สถานีรถไฟฟ้า ลูกค้าสามารถขึ้นรถสาธารณะไปทำธุระอื่นๆต่อได้เลย หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางไดเร็ค เอเชีย เป็นคนดูแล ไปส่งรถ ติดตามงาน รวมถึงตรวจสอบรถหลังซ่อมเสร็จ เนื่องจากเรามองเห็นถึง Pain Point ของลูกค้าว่าคืออะไร  เราคิดว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยลูกค้าได้มากขึ้นและทำให้ลูกค้ารักเรา ไม่ใช่ซื้อเสร็จแล้วก็ปล่อยลูกค้าทิ้งๆ ขว้างๆ  

 

"ถ้าลูกค้าไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ แต่ลูกค้าต้องเข้าเมืองก็สามารถขับรถมาทิ้งไว้ที่สำนักงานของเราได้ หรือในอนาคตเราก็มีโครงการที่จะขยายจุดรับรถให้ลูกค้าอยู่ในโซนอื่นๆก็สามารถจอดที่ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านหรือให้พนักงานเราไปรับรถและพนักงานก็จะออกใบเคลมให้กับลูกค้าเอาไว้ ทั้งนี้ระยะเวลาซ่อมรถก็จะใช้เวลาประมาณ 7 วัน จากนั้นก็สามารถมารับที่บริษัทได้เลยเพียงแต่มีเงื่อนไขการใช้บริการที่ว่า ต้องจองโทรแจ้งล่วงหน้าและนัดเวลาเพื่อรับหรือส่งรถยนต์ ในช่วงเวลาทำการ "  

 

นอกจากนี้ เพื่อให้บริการมีความสมบูรณ์ ตอบโจทย์ Pain Point ทุกวันนี้ วรวุฒิก็ทำหน้าที่เป็นนักสำรวจ ขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่เป็น Mystery Shopper หรือลูกค้านิรนาม เพื่อทำหน้าที่ประเมินการให้บริการของไดเร็ค เอเชียเอง ด้วยการทำตัวเหมือนลูกค้าปกติทั่วไปแล้วติดต่อเข้ามาที่บริษัทด้วยวิธิการต่างๆ

 

"ผมเข้าเว็บไซต์ของตัวเอง เว็บไซต์เพื่อนบ้าน แล้วรายงานให้น้องในทีมฟังทั้งที่ผมไม่จำเป็นต้องรายงาน แต่ผมจำเป็นต้องรายงานหัวหน้าใช่หรือไม่ว่าใครโทรหาผมเร็วที่สุด เว็บไซต์ไหน สถาบันการเงินไหน ราคาของเขาเป็นอย่างไรเปรียบเทียบกัน ผมเปรียบเทียบทุกวันตั้งแต่รถญี่ปุ่น รถยุโรป ฉะนั้น บอกเลยว่าการบริการผมดี รวดเร็วและจริงใจ

 

แล้วผมบอกว่า ผมซื้อบริการของ Direct Asia ผมได้รับแพ็คเกจจาก Direct Asia ผมแกล้งไม่จ่ายตังค์ Direct Asia เขาโทรมาทวงเงิน โดยที่เขาไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ยกตัวอย่างมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมบอกกับคอลเซ็นเตอร์ว่า ผมไม่มีเงินจ่ายเพราะอยากฟังว่า เขาพูดว่าอะไร ซึ่งได้รับคำตอบว่า ด้วยความห่วงใยจากไดเร็ค เอเชีย คุณลูกค้าทราบใช่ไหมคะว่า ถ้าคุณลูกค้าไม่จ่ายเงิน ภายใน 30-60 วัน คุณลูกค้าจะไม่ได้รับความคุ้มครอง แล้วหากคุณลูกค้าเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งดิฉันไม่เคยอยากจะให้เกิดขึ้น คุณลูกค้าจะไม่ได้รับความคุ้มครอง ไม่สามารถซ่อมได้ จากคำพูดของพนักงานทำให้ผมได้ฉุกคิดว่าจะมีประกันเจ้าไหนมั้ย ที่กล้าพูดกับลูกค้าด้วยความจริงใจขนาดนี้ ผมทำอย่างนี้อยู่ทุกวันเพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจได้ว่า ไดเร็ค เอเชียจะให้บริการที่ดี และจริงใจที่สุด นี่คือเหตุผลที่ว่า Direct Asia ต่างจากประกันรายอื่นอย่างไร"

 

 

DISRUPTER

สำหรับการขายกรมธรรม์เบี้ยประกันภัยรถบนออนไลน์นัน วรวุฒิยอมรับว่า

"สัดส่วนตรงนี้น้อยเพียง 1% ของตลาดรวม ขณะที่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

  • เพียงแต่ในการทำตลาด วันนี้เราต้องกล้าที่จะฉีก
  • กล้าที่จะปฏิวัติทุกอย่างที่เราเคยคิด
  • ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้
  • แล้วเราก็สะท้อนออกมาเองด้วยว่าเราทำได้

 

เราต้องทำให้เขารู้สึกว่า เราให้บริการที่จริงใจและให้บริการกับลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ทุกคนได้เหมือนกันหมด การเข้ามาในเว็บไซต์ของ DirectAsia.co.th แต่ละหน้าจะมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกันและจะโชว์บุคลิกที่แตกต่างกัน เนื่องจากเรารู้ว่า คนประเภทไหน บุคลิกแบบไหน ซื้อของแบบอย่างไร เพราะเราไม่อยากพูดถึงหรือโชว์อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือสิ่งที่ลูกค้าไม่สนใจ

 

นอกจากนี้ ผมต้องบอกว่า Retargeting Model ไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ในโลกใบนี้แล้ว แล้วไม่ว่า ลูกค้าจะสนใจสินค้าอะไรก็ตาม Retargeting จะเกิดขึ้นแน่นอน มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับบริษัทนั้นให้ความสำคัญกับการทำ Retargeting มากน้อยแค่ไหน หากจะถามว่ามันเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดีหรือไม่ ก็ตอบได้ว่า "ใช่ - แต่ต้องใช้ให้เหมาะสม"  

 

สำหรับโอกาสการเติบโตในตลาดธุรกิจประกันรถยนต์ ผมเชื่อว่า เรายังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกมาก เพราะเราพูดถึงการจะไปกินส่วนแบ่งตลาดของเอเย่นต์หรือโบรคเกอร์ที่มีอยู่อย่างมหาศาลแล้ว เพราะตรงนั้นก็ 60% แล้ว สัดส่วนคนซื้อจากผู้ให้บริการแบบเราน้อยกว่า เป็นสัดส่วนประมาณ 5% ของตลาดประกันรถยนต์

อย่างไรก็ตามถ้าเราเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีไปอีก 5 ปีเราก็น่าจะมีส่วนแบ่งตลาดใกล้ๆ 1% ของตลาดรวมโดยมีสมมติฐานว่าตลาดมิได้ถดถอยแต่ในอนาคตก็อาจจะมีคู่แข่งขันที่อาจจะเป็น Insurance Tech หรือบริษัทอื่นขึ้นมา หรือมีบริษัทอื่นที่ไม่ได้เป็นธุรกิจประกัน แต่ผันตัวมาในอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต

 

 

ผมเชื่อว่า ถ้าเราไม่ปรับตัววันนี้ก็จะยาก เพราะคนรุ่นใหม่เริ่มมองหาบริการออนไลน์แบบนี้มากขึ้น ฉะนั้นผมเห็นว่าสัดส่วนหนึ่งจะเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ก็ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณค่า (Value Shift) แต่ว่า แค่สัดส่วน 1, 2 หรือ 3 % ทุกปีก็สะเทือนบริษัทใหญ่ๆ ที่เสียส่วนแบ่งตลาดให้กับบริษัทออนไลน์เหมือนกัน

 

การเป็นส่วนหนึ่งของ Hiscox ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่อังกฤษที่มีประวัติการทำงานยาวนานมากกว่า 100 ปี มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทำประกันให้กับเอสเอ็มอี  ฉะนั้น ก็เป็นไปได้ว่า อนาคตถ้าเรามองว่า เอสเอ็มอีเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ ทำให้ธุรกิจของคุณไม่สะดุด ในวันที่มีปัญหาหรืออุบัติเหตุเกิดขึ้นเราก็จะหยิบโนว์ฮาว (Know-how) ตรงนี้มาใช้ในประเทศได้ แต่ทั้งนี้ เราก็ต้องศึกษาว่า อะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเอสเอ็มอี หรือเป็นพวกทรัพย์สินอย่างตึกรามบ้านช่องก็อาจจะมีเพิ่มขึ้น 

 

ไดเร็ค เอเชีย ถือเป็นธุรกิจที่ Disrupt ธุรกิจประกัน ผมพูดอย่างนี้ได้เลย เพราะเราเข้ามาในเซ็กเม้นท์ออนไลน์เป็นรายแรก แล้วเราก็คือ Disrupter ในตลาด การเข้ามาของเราทำให้หลายๆ บริษัทปรับตัว แม้ในแง่ของยอดอาจจะไม่ใช่ แต่ในมุมของนวัตกรรรม มันเกิดขึ้นแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้บอกว่า เราจะหยุดอยู่แค่นี้ เราก็ยังคงลงทุนกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถที่จะกระโดดข้ามไปได้ว่า ก้าวต่อไปคืออะไร

 

 

ทั้งนี้เราก็เชื่อว่า น่าจะเห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ เราก็จะมีการพ่วง (Tie-in) ไปกับบรรดาพันธมิตรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรทางด้านออนไลน์และออฟไลน์, การให้การสนับสนุนองค์กร (Corporate Sponsorship) และเน้นทำการตลาดเชิงไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Marketing)   

 

[อ่าน 5,565]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ ‘เลิศรินิญฒ์ ศรีสุคนธ์’ กับเบื้องหลังการปั้น ‘Cafe Chilli’ ให้เป็นแบรนด์เรือธง ของ สะไปซ์ ออฟ เอเซีย
ทีเด็ด POP MART เจาะตลาดไทยอย่างไร ให้มัดใจผู้บริโภคอยู่หมัด
‘เดอะคลีนิกค์’ เผยผลงานโดดเด่นปี 66 โกยรายได้กว่า 2.3 พันล้าน เดินหน้าบุกตลาดความงาม
“เพราะชีวิตคือบททดสอบ” เปิดเรื่องราวชีวิตหญิงแกร่ง CHRO แห่งทรู คอร์ปอเรชั่น
‘ไพศาล อ่าวสถาพร’ กับเบื้องหลังการปั้น ‘บิสโตร เอเชีย’ ให้มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 70%
ศุภลักษณ์ อัมพุช กับ New Era ของกลุ่มเดอะมอลล์ ที่เป็นมากกว่าแค่ช้อปปิ้ง แต่คือการสร้างย่านการค้า
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved