หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ นั้น จะอยู่ที่ความเข้าใจไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของลูกค้า และพร้อมที่จะนำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่ มีนวัตกรรม ที่สำคัญเป็นการเซ็ตเกมใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อน พร้อมกับการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้า
และนั่นคือเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง ที่หลังจากเข้ามาทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการของบริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือไทยเบฟ ของ ‘แซม’ ไพศาล อ่าวสถาพร ไม่หยุดนิ่งในการคิดค้นนวัตกรรม เพื่อนำมาเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารในเครือฯ
‘แซม’ ไพศาล อ่าวสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด
การเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ VANTAGE POINT ชั้น 2 ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คือตัวอย่างที่สะท้อนภาพในเรื่องดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะ VANTAGE POINT ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารสไตล์ตะวันตก หรืออินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟต์ เหมือนกับที่เราคุ้นเคย แต่เป็นการฉีกแนวที่เปิดเป็นร้านอาหารในสไตล์ European Eatery ที่รวบรวมอาหารยุโรปที่หลากหลาย จากวัตถุดิบคุณภาพที่แรกและที่เดียวในเมืองไทย
แซม บอกกับเราว่า คนไทย อาจจะคุ้นเคยกับอาหารตะวันตก แต่สำหรับร้านอาหารที่รวบรวมอาหารจากยุโรปที่หลากหลาย ทั้งจากประเทศอิตาลี สเปน โปรตุเกส อังกฤษ และอีกหลากหลายประเทศแบบนี้ ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยเราต้องการที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนนี้ ให้กับลูกค้าชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับอาหารสไตล์ยุโรปชั้นยอดในแบบฉบับของความเป็นยุโรปแท้ๆ
“VANTAGE POINT ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีต้นแบบมาจาก Mercato Centrale ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ซึ่งป็นคอนเซปต์ของสถานที่ที่เป็นการรวบรวมร้านอาหารชั้นยอดของอิตาลีมาไว้ในที่เดียวกัน คล้ายๆ กับตลาดของบ้านเรา ก่อนที่คอนเซปต์ศูนย์รวมของร้านอาหารแบบนี้ จะได้รับความนิยม และถูกขยายออกไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นสเปน หรือฝรั่งเศส ซึ่งความนิยมนี้ เกิดจากการมีความหลากหลายของประเภทอาหาร จากวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ที่นอกจากอาหารยุโรปแล้ว ยังมีอาหารอเมริกัน และขนมตลอดจนของกินเล่นต่างๆ เพื่อรองรับการดื่ม และต้องการพักผ่อนแบบชิล ชิลในช่วงเวลาเย็น”
ส่วนสาเหตุของการเลือกตั้งชื่อแบรนด์ร้านอาหารใหม่ในเครือว่า ‘VANTAGE POINT’ นั้น ผู้บริหารของ บิสโตร เอเชีย เฉลยว่า VANTAGE POINT จะหมายถึง จุดชมวิวที่ดีที่สุด ซึ่งชื่อนี้เกิดจาก การมีบรรยากาศภายในร้านที่สามารถมองเห็นวิวที่ดีที่สุดของสวนเบญจกิติ ทั้งในส่วนของสวนและทะเลสาบ โดยร้านจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซน Park กับโซน Lake ในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,000 ตารางเมตร เป็นที่นั่งแบบเอาท์ดอร์10% รองรับลูกค้าได้ประมาณ 300 คน
“การดีไซน์บรรยากาศภายในร้านจะออกมาแบบสบายๆ ที่ดีไซน์จะเชื่อมโยงกับคอนเซปต์ของ Mercato Centraleโดยจะมีการดีไซน์ครัวแบบ Open Kitchen ตลอดจนนำเรื่องของดิจิทัลเข้ามาใช้ในการสั่งอาหาร ซึ่งในช่วงวันธรรมดา จะให้บริการแบบอะลาคาร์ท ขณะที่เสาร์ - อาทิตย์ จะเป็นบุฟเฟต์ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 998 ++”
VANTAGE POINT เป็นร้านอาหารแบรนด์ใหม่ของ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือไทยเบฟ ที่มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือประกอบไปด้วย บ้านสุริยาศัย (BAAN SURIYASAI) ไฮด์ แอนด์ ซีค แอทธินี (HYDE & SEEK Athenee) หม่าน ฟู่ หยวน (MAN FU YUAN)โซ อาเซียน (SO Asean Café & Restaurant) สโมสรราชพฤกษ์ (Rajpruek Club) ศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท (Food Street) และบริการจัดเลี้ยง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารใหม่ๆ ในเครือแต่ละครั้งของบิสโตร เอเชีย นั้น ส่วนหนึ่งเป็นการเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับโครงการต่างๆ ของเครือทีซีซี ที่มีการพัฒนาโครงการในลักษณะมิกซ์ยูสออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่อง การเปิดร้านอาหารที่เป็นสไตล์ European Eatery ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะสามารถรองรับลูกค้าจากต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ประชุมได้เป็นอย่างดี การเกิดขึ้นของ VANTAGE POINT จึงเป็นอีกความลงตัว และช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี โดยหาก VANTAGE POINT สาขาแรกที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ประสบความสำเร็จ อาจจะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อนำไปเปิดในโครงการใหญ่อย่าง ‘One Bangkok’
แซม บอกว่า การทำร้านอาหารในปัจจุบันนี้ ต้องเข้าใจว่าเทรนด์หรือแนวโน้มของตลาดตลอดจนความต้องการของลูกค้า โดยเขามองว่า การเป็น Pioneer หรือผู้บุกเบิ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นผู้เซ็ตเทรนด์ หรือสร้างความแปลกใหม่เป็นรายแรกของตลาด
“หลายคนถามว่า ทำไมถึงไม่เปิดเป็น อินเตอร์เนชั่นแนล บุฟเฟต์ ซึ่งถ้าเปิดร้านอาหารในแนวนั้นจะเป็นการย่ำไปบนรอยเท้าที่มีคนเดินอยู่ก่อนหน้าแล้วการฉีกหนีมาสร้างแนวทางของตัวเองจะทำให้กลายเป็นรายแรกและคนก็จะสัมผัสได้ถึงการมีนวัตกรรมและความเข้าใจในความต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่ของพวกเขา”
แซม ยังบอกอีกว่า ผู้บริโภคชาวไทย มีความรู้ในเรื่องของอาหารแต่ละประเภท หรือแต่ละสไตล์เป็นอย่างดี เนื่องจากปัจจุบันโลกมันค่อนข้างเปิดกว้าง และพวกเขาเองก็มีประสบการณ์หรือได้สัมผัสโดยตรงจากการเดินทางท่องเที่ยวไปในหลายประเทศ จึงต้องการอะไรที่มากกว่าที่มีอยู่ ทำให้เราไม่สามารถหยุดนิ่งในการส่งมอบประสบการณ์ที่ใหม่ๆ ให้กับพวกเขาได้
และทั้งหมดนั้น จะเป็นแนวทางในการทำตลาดของบิสโตร เอเชีย ที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้นๆ.....
'แซม’ ไพศาล อ่าวสถาพร กับความสำเร็จก้าวแรกของ ‘บิสโตร เอเชีย’ >> https://www.marketplus.in.th/content/detail.php?id=13700